พิมพ์      เปิดเวอร์ชัน PDF ของวิธีใช้แบบออนไลน์


หัวข้อก่อนหน้า

หัวข้อถัดไป

วิธีที่โครงร่างฟิลด์ส่วนบุคคลโต้ตอบกับโครงร่างเพจสำหรับบทบาท

ผู้ใช้สามารถกำหนดโครงร่างฟิลด์บนเพจรายละเอียดสำหรับประเภทเรคคอร์ดให้เป็นส่วนบุคคลได้เมื่อมีการตั้งค่าบทบาทผู้ใช้ดังนี้:

  • มีการใช้งานสิทธิ์ 'ทำเพจรายละเอียดให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคล - ฟิลด์' สำหรับบทบาท
  • มีการระบุโครงร่างเพจที่กำหนดเองให้กับบทบาทสำหรับประเภทเรคคอร์ด

หมายเหตุ: หากมีการระบุโครงร่างมาตรฐานให้กับบทบาทสำหรับประเภทเรคคอร์ด ผู้ใช้จะไม่สามารถทำโครงร่างฟิลด์สำหรับประเภทเรคคอร์ดดังกล่าวให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลได้ นอกจากนี้ คุณยังไม่สามารถตั้งค่าบทบาทผู้ใช้เพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำโครงร่างเพจที่กำหนดเองบางรายการ (แต่ไม่ใช่ทั้งหมด) ที่ระบุให้กับบทบาทของตนเป็นข้อมูลส่วนบุคคลได้ หากบทบาทผู้ใช้มีสิทธิ์ 'ทำเพจรายละเอียดให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคล - ฟิลด์' ผู้ใช้ที่มีบทบาทดังกล่าวจะสามารถทำโครงร่างเพจที่กำหนดเองทุกรายการที่ระบุให้กับบทบาทให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลได้

เมื่อคุณตั้งค่าโครงร่างเพจที่กำหนดเอง คุณจะสามารถระบุให้ฟิลด์บางรายการปรากฏอยู่บนโครงร่างเสมอได้ ผู้ใช้สามารถแสดงหรือซ่อนฟิลด์ในโครงร่างส่วนบุคคลของตนได้ เว้นเพียงแต่ฟิลด์ที่จำเป็นและฟิลด์ที่คุณระบุให้ปรากฏอยู่บนโครงร่างเสมอ นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเปลี่ยนลำดับของฟิลด์ที่ปรากฏในเพจรายละเอียดได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ไม่สามารถเพิ่มฟิลด์ใดๆ ที่ไม่ได้ปรากฏอยู่ในโครงร่างดีฟอลต์ลงในโครงร่างส่วนบุคคลของตน ทั้งนี้ ผู้ใช้สามารถทำโครงร่างฟิลด์ ทั้งแบบสแตติกและไดนามิก ให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลได้

หมายเหตุ: ผู้ใช้อาจสามารถทำโครงร่างของส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องบนเพจรายละเอียดเรคคอร์ดให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าบทบาทผู้ใช้ของตน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ วิธีที่โครงร่างข้อมูลที่เกี่ยวข้องส่วนบุคคลโต้ตอบกับโครงร่างเพจสำหรับบทบาท

หลังจากผู้ใช้จัดทำโครงร่างฟิลด์ส่วนบุคคลแล้ว จะมีการใช้โครงร่างในแต่ละครั้งที่ผู้ใช้เปิดหรือแก้ไขเรคคอร์ดของประเภทเรคคอร์ดนั้นจนกว่าจะมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

  • ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงโครงร่างฟิลด์อีกครั้ง
  • ผู้ใช้เรียกคืนโครงร่างฟิลด์ดีฟอลต์สำหรับเพจ

    หมายเหตุ: การเรียกคืนโครงร่างฟิลด์กลับเป็นโครงร่างดีฟอลต์จะไม่มีผลกับโครงร่างส่วนบุคคลใดๆ ของส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่นเดียวกัน การเรียกคืนโครงร่างส่วนบุคคลของส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะไม่มีผลกับโครงร่างฟิลด์ส่วนบุคคลสำหรับประเภทเรคคอร์ด

  • ผู้ดูแลระบบรีเซ็ตโครงร่างเพจสำหรับบทบาทผู้ใช้กลับเป็นโครงร่างดีฟอลต์ หรือระบุโครงร่างอื่นให้กับบทบาทสำหรับเรคคอร์ดประเภทนั้น

    หมายเหตุ: หากผู้ดูแลระบบรีเซ็ตโครงร่างเพจสำหรับประเภทเรคคอร์ดเป็นโครงร่างดีฟอลต์สำหรับบทบาท โครงร่างฟิลด์ส่วนบุคคลทั้งหมดของข้อมูลที่เกี่ยวข้องสำหรับประเภทเรคคอร์ดนั้นจะได้รับการจัดเก็บเป็นค่าดีฟอลต์สำหรับผู้ใช้ที่มีบทบาทนั้น อย่างไรก็ตาม หากผู้ดูแลระบบระบุโครงร่างเพจใหม่สำหรับประเภทเรคคอร์ดให้กับบทบาท ผู้ใช้ทั้งหมดที่มีบทบาทนั้นจะเห็นโครงร่างฟิลด์ใหม่สำหรับประเภทเรคคอร์ด แต่ผู้ใช้จะยังคงเห็นโครงร่างส่วนบุคคลของตนเองของส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องสำหรับประเภทเรคคอร์ดนั้นต่อไป จนกว่าผู้ใช้จะเรียกคืนโครงร่างข้อมูลที่เกี่ยวข้องเป็นโครงร่างดีฟอลต์

เกี่ยวกับโครงร่างฟิลด์ในเพจเรคคอร์ดใหม่

ระบบจะใช้โครงร่างส่วนบุคคลของผู้ใช้ในเพจที่ผู้ใช้ป้อนข้อมูลสำหรับเรคคอร์ดใหม่ของประเภทเรคคอร์ดนั้น เว้นแต่ว่าจะมีการระบุโครงร่างที่กำหนดเองสำหรับเพจเรคคอร์ดใหม่ให้กับบทบาทของผู้ใช้สำหรับประเภทเรคคอร์ด หากมีการระบุโครงร่างที่กำหนดเองสำหรับเพจเรคคอร์ดใหม่ให้กับบทบาทของผู้ใช้เพื่อนำไปใช้ในทุกกรณี ระบบจะไม่นำโครงร่างส่วนบุคคลของผู้ใช้ไปใช้สำหรับเพจเรคคอร์ดใหม่ อย่างไรก็ตาม หากบทบาทของผู้ใช้ระบุว่า โครงร่างที่กำหนดเองสำหรับเพจเรคคอร์ดใหม่จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อผู้ใช้จัดทำเรคคอร์ดจากแถบการดำเนินการหรือส่วนหัวร่วมเท่านั้น ในกรณีนี้ โครงร่างฟิลด์ส่วนบุคคลของผู้ใช้จะนำมาใช้ เมื่อผู้ใช้จัดทำเรคคอร์ดจากพื้นที่อื่นๆ ใน Oracle CRM On Demand

จะเกิดอะไรขึ้นหากโครงร่างเพจมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ผู้ใช้ทำโครงร่างฟิลด์ให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคล

หลังจากผู้ใช้ที่มีบทบาทบางอย่างทำโครงร่างฟิลด์สำหรับประเภทเรคคอร์ดของตนให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ดูแลระบบอาจทำการเปลี่ยนแปลงโครงร่างดีฟอลต์สำหรับบทบาทดังกล่าว โดยการเปลี่ยนแปลงของโครงร่างนั้นจะส่งผลต่อโครงร่างส่วนบุคคลดังต่อไปนี้ ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงที่ผู้ดูแลระบบดำเนินการ:

  • หากผู้ดูแลระบบระบุโครงร่างเพจรายละเอียดอื่นให้กับบทบาทสำหรับประเภทเรคคอร์ด ผู้ใช้ทั้งหมดที่มีบทบาทนั้นจะเห็นโครงร่างฟิลด์ใหม่สำหรับประเภทเรคคอร์ดในครั้งถัดไปที่ผู้ใช้ไซน์อินเข้าสู่ Oracle CRM On Demand อย่างไรก็ตาม หากในเวลาต่อมา ผู้ดูแลระบบได้ระบุโครงร่างเพจเดิมให้กับบทบาทอีกครั้ง ผู้ใช้จะกลับมาเห็นเวอร์ชันส่วนบุคคลของโครงร่างนั้นอีก
  • หากผู้ดูแลระบบทำการเปลี่ยนแปลงการปรากฏ โครงร่าง หรือลักษณะของฟิลด์ในโครงร่างฟิลด์สำหรับเพจรายละเอียดที่ระบุให้กับบทบาท ระบบจะไม่ทำการเปลี่ยนแปลงโครงร่างส่วนบุคคลให้โดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น:
    • หากผู้ดูแลระบบลบฟิลด์ออกจากโครงร่างเพจรายละเอียด ฟิลด์ดังกล่าวจะไม่ถูกลบออกจากโครงร่างส่วนบุคคล นอกจากนี้ หากผู้ใช้เปิดเพจโครงร่างส่วนบุคคล - ฟิลด์สำหรับโครงร่างเพจนั้น ฟิลด์ที่ผู้ดูแลระบบลบออกก็จะยังคงปรากฏอยู่เช่นเดิม โดยจะอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งในโครงร่างหรือในรายการฟิลด์ที่มีอยู่ตามที่ผู้ใช้ระบุ
    • หากผู้ดูแลระบบเพิ่มฟิลด์ลงในโครงร่างเพจรายละเอียด ฟิลด์ใหม่ดังกล่าวจะไม่ปรากฏในโครงร่างส่วนบุคคล นอกจากนี้ หากผู้ใช้เปิดเพจโครงร่างส่วนบุคคล - ฟิลด์สำหรับโครงร่างเพจนั้น ฟิลด์ที่ผู้ดูแลระบบเพิ่มก็จะไม่ปรากฏอยู่ในส่วนใดๆ ในโครงร่างหรือในรายการฟิลด์ที่มีอยู่
    • หากผู้ดูแลระบบเปลี่ยนแปลงลักษณะของฟิลด์ การเปลี่ยนแปลงจะไม่ปรากฏในโครงร่างส่วนบุคคลโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หากผู้ดูแลระบบทำให้ฟิลด์ที่เคยเป็นฟิลด์ที่ไม่จำเป็นมาก่อนในโครงร่างเพจกลายเป็นฟิลด์ที่จำเป็น ฟิลด์ดังกล่าวจะไม่เปลี่ยนเป็นฟิลด์ที่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ที่ทำโครงร่างของตนให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคล ในทำนองเดียวกัน หากผู้ดูแลระบบเลือกช่องทำเครื่องหมาย ปรากฏบนโครงร่างเสมอ ให้กับฟิลด์ ระบบจะไม่บังคับให้ผู้ใช้แสดงฟิลด์ดังกล่าวในโครงร่างส่วนบุคคลของตน แม้ว่าผู้ใช้จะดำเนินการอัปเดตเพิ่มเติมให้กับโครงร่างส่วนบุคคลหลังจากที่ผู้ดูแลระบบได้ทำการเปลี่ยนแปลงก็ตาม

หากผู้ดูแลระบบต้องการให้การเปลี่ยนแปลงของโครงร่างฟิลด์มีผลกับผู้ใช้ทุกคนที่มีบทบาท ผู้ดูแลระบบจะต้องรีเซ็ตโครงร่างเพจให้เป็นโครงร่างดีฟอลต์สำหรับบทบาทนั้น หรือผู้ใช้สามารถรีเซ็ตโครงร่างเพจของตนให้อยู่ในค่าดีฟอลต์ แล้วจึงทำโครงร่างให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลอีกครั้ง หากต้องการ

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงร่างเพจ โปรดดูหัวข้อต่อไปนี้:


ตุลาคม 2016 ลิขสิทธิ์ © 2005, 2016, Oracle สงวนลิขสิทธ Legal Notices.