พิมพ์      เปิดเวอร์ชัน PDF ของวิธีใช้แบบออนไลน์


หัวข้อก่อนหน้า

หัวข้อถัดไป

วิธีที่โครงร่างข้อมูลที่เกี่ยวข้องส่วนบุคคลโต้ตอบกับโครงร่างเพจสำหรับบทบาท

บทบาทผู้ใช้แต่ละรายการมีโครงร่างเพจที่ระบุไว้สำหรับเรคคอร์ดแต่ละประเภท โครงร่างเพจต่างๆ จะกำหนดฟิลด์ ส่วนของเพจ และส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ใช้สามารถเห็นได้บนเพจที่พวกเขาจัดทำ ดู และแก้ไขเรคคอร์ดของประเภทเรคคอร์ดต่างๆ ผู้ใช้สามารถกำหนดโครงร่างของส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องบนเพจรายละเอียดสำหรับประเภทเรคคอร์ดให้เป็นส่วนบุคคลได้หากมีการใช้งานสิทธิ์ 'ทำเพจรายละเอียดให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคล - ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง' สำหรับบทบาทผู้ใช้ของผู้ใช้ ผู้ใช้สามารถแสดงหรือซ่อนส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวข้องและยังสามารถเปลี่ยนแปลงลำดับที่ส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวข้องปรากฏบนเพจรายละเอียดได้อีกด้วย

หมายเหตุ: ผู้ใช้อาจสามารถปรับแต่งโครงร่างฟิลด์บนเพจเรคคอร์ดให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าบทบาทผู้ใช้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ วิธีที่โครงร่างฟิลด์ส่วนบุคคลโต้ตอบกับโครงร่างเพจสำหรับบทบาท

หากจำเป็น คุณสามารถรีเซ็ตโครงร่างเพจในเวอร์ชันส่วนบุคคลให้เป็นการตั้งค่าดีฟอลต์สำหรับบทบาทได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ การรีเซ็ตโครงร่างเพจส่วนบุคคล

วิธีที่โครงร่างข้อมูลที่เกี่ยวข้องส่วนบุคคลโต้ตอบกับโครงร่างเพจแบบสแตติก

เมื่อใช้โครงร่างเพจแบบสแตติก ผู้ใช้จะมองเห็นโครงร่างของเรคคอร์ดทั้งหมดที่อยู่ในประเภทเรคคอร์ดที่ระบุเป็นโครงร่างเดียวกัน เมื่อผู้ใช้จัดทำโครงร่างส่วนบุคคลของส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวข้องสำหรับโครงร่างเพจรายละเอียดแบบสแตติก การทำงานจะมีลักษณะดังนี้:

  • หลังจากที่ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงโครงร่างของส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องในเพจรายละเอียดสำหรับเรคคอร์ดประเภทแล้ว ระบบจะใช้โครงร่างส่วนบุคคลของผู้ใช้ทุกครั้งที่ผู้ใช้เปิดเพจรายละเอียดสำหรับประเภทเรคคอร์ดนั้น
  • ระบบจะยังคงใช้โครงร่างส่วนบุคคลของผู้ใช้ในส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องสำหรับเรคคอร์ดทั้งหมดที่มีประเภทเรคคอร์ดนั้นๆ ต่อไป จนกว่าจะมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
    • ผู้ใช้แก้ไขโครงร่างส่วนบุคคลของส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
    • ผู้ใช้รีเซ็ตโครงร่างเป็นโครงร่างเพจดีฟอลต์สำหรับบทบาทของผู้ใช้

      หมายเหตุ: การเรียกคืนโครงร่างฟิลด์กลับเป็นโครงร่างดีฟอลต์จะไม่มีผลกับโครงร่างส่วนบุคคลใดๆ ของส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่นเดียวกัน การเรียกคืนโครงร่างส่วนบุคคลของส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะไม่มีผลกับโครงร่างฟิลด์ส่วนบุคคลสำหรับประเภทเรคคอร์ด

    • ผู้ดูแลระบบของบริษัทรีเซ็ตโครงร่างเพจสำหรับบทบาทของผู้ใช้เป็นโครงร่างเพจดีฟอลต์

      หมายเหตุ: หากผู้ดูแลระบบรีเซ็ตโครงร่างเพจสำหรับประเภทเรคคอร์ดเป็นโครงร่างดีฟอลต์สำหรับบทบาท โครงร่างฟิลด์ส่วนบุคคลทั้งหมดของข้อมูลที่เกี่ยวข้องสำหรับประเภทเรคคอร์ดนั้นจะได้รับการจัดเก็บเป็นค่าดีฟอลต์สำหรับผู้ใช้ที่มีบทบาทนั้น อย่างไรก็ตาม หากผู้ดูแลระบบระบุโครงร่างเพจใหม่สำหรับประเภทเรคคอร์ดให้กับบทบาท ผู้ใช้ทั้งหมดที่มีบทบาทนั้นจะเห็นโครงร่างฟิลด์ใหม่สำหรับประเภทเรคคอร์ด แต่ผู้ใช้จะยังคงเห็นโครงร่างส่วนบุคคลของตนเองของส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องสำหรับประเภทเรคคอร์ดนั้นต่อไป จนกว่าผู้ใช้จะเรียกคืนโครงร่างข้อมูลที่เกี่ยวข้องเป็นโครงร่างดีฟอลต์

  • หากผู้ดูแลระบบของบริษัทของคุณเปลี่ยนแปลงรายการส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่ปรากฏและใช้งานได้ในโครงร่างเพจดีฟอลต์สำหรับบทบาทผู้ใช้ การทำงานจะมีลักษณะดังนี้:
    • หากผู้ดูแลระบบของบริษัทย้ายส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่ไม่สามารถใช้งานได้ก่อนหน้านี้ไปยังรายการส่วนที่แสดงหรือรายการส่วนที่ใช้ได้ในโครงร่างเพจดีฟอลต์ ระบบจะไม่แสดงผลส่วนในโครงร่างส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องให้โดยอัตโนมัติ หากผู้ใช้ต้องการให้ส่วนที่ใช้ได้ใหม่ๆ ปรากฏขึ้น ผู้ใช้ต้องแก้ไขโครงร่างส่วนบุคคลเพื่อเพิ่มส่วนให้กับรายการส่วนที่แสดง
    • หากผู้ดูแลระบบของบริษัทย้ายส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากรายการส่วนที่แสดงไปยังรายการส่วนที่ใช้ได้ในโครงร่างเพจดีฟอลต์ และหากมีส่วนปรากฏในโครงร่างเพจส่วนบุคคลของผู้ใช้แล้ว ส่วนดังกล่าวจะยังคงปรากฏให้ผู้ใช้เห็นต่อไปจนกว่าผู้ใช้จะลบออกจากรายการส่วนที่แสดงในโครงร่างส่วนบุคคล หรือรีเซ็ตโครงร่างเป็นโครงร่างดีฟอลต์
    • หากผู้ดูแลระบบของบริษัทย้ายส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปยังรายการส่วนที่ใช้ไม่ได้ในโครงร่างเพจดีฟอลต์ และหากมีส่วนปรากฏในโครงร่างเพจส่วนบุคคลของผู้ใช้แล้ว ส่วนดังกล่าวจะยังคงปรากฏในเพจรายละเอียดของเรคคอร์ดสำหรับผู้ใช้รายดังกล่าวต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ใช้แก้ไขโครงร่างส่วนบุคคลของเพจรายละเอียดในครั้งถัดไป ส่วนจะไม่ปรากฏในรายการส่วนที่แสดงของโครงร่างอีกต่อไป และหลังจากผู้ใช้คลิก บันทึก ในเพจโครงร่างส่วนบุคคล ระบบจะลบส่วนที่ใช้ไม่ได้ออกจากโครงร่างและจะไม่แสดงในเพจรายละเอียดของเรคคอร์ดอีกต่อไป

วิธีที่โครงร่างข้อมูลที่เกี่ยวข้องส่วนบุคคลโต้ตอบกับโครงร่างเพจแบบไดนามิก

สำหรับประเภทเรคคอร์ดบางประเภท ผู้ดูแลระบบของบริษัทสามารถจัดทำโครงร่างเพจแบบไดนามิกได้ ในโครงร่างเพจแบบไดนามิก ค่ารายการสำหรับเลือกในฟิลด์บนเรคคอร์ดจะถูกใช้ในการกำหนดการแสดงโครงร่างเพจแบบไดนามิกสำหรับเรคคอร์ด ตัวอย่างเช่น บริษัทของคุณอาจต้องการให้ผู้ใช้ดูโครงร่างเฉพาะสำหรับเพจรายละเอียดของบริษัทที่มีประเภทบริษัทเป็น ลูกค้า และอาจต้องการให้ผู้ใช้ดูโครงร่างเพจอื่นของบริษัทที่มีประเภทบริษัทเป็น คู่แข่ง ในกรณีดังกล่าว ผู้ดูแลระบบของบริษัทของคุณสามารถตั้งค่าโครงร่างเพจแบบไดนามิกสำหรับเพจรายละเอียดบริษัทและระบุให้กับบทบาทผู้ใช้ตามความจำเป็น

เมื่อใช้โครงร่างแบบไดนามิก ช่องทำเครื่องหมาย ใช้งานการทำให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของโครงร่างเพจแบบไดนามิกแต่ละโครงร่าง ในโปรไฟล์บริษัทจะเป็นตัวกำหนดว่าผู้ใช้จะสามารถจัดทำโครงร่างส่วนบุคคลของส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้เพียงหนึ่งรายการสำหรับหนึ่งประเภทเรคคอร์ดเท่านั้น หรือจะสามารถจัดทำโครงร่างส่วนบุคคลหลายรายการให้กับหนึ่งประเภทเรคคอร์ดได้ การทำงานของช่องทำเครื่องหมาย ใช้งานการทำให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของโครงร่างเพจแบบไดนามิกแต่ละโครงร่าง มีลักษณะดังนี้:

  • หากมีการยกเลิกการเลือกช่องทำเครื่องหมาย ใช้งานการทำให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของโครงร่างเพจแบบไดนามิกแต่ละโครงร่าง ในโปรไฟล์บริษัท ผู้ใช้จะสามารถจัดทำโครงร่างส่วนบุคคลของส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้เพียงหนึ่งรายการสำหรับหนึ่งประเภทเรคคอร์ดเท่านั้น ทั้งนี้ ระบบจะใช้โครงร่างของส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องส่วนบุคคลของผู้ใช้กับเพจรายละเอียดของเรคคอร์ดทั้งหมดของประเภทเรคคอร์ดนั้น โดยไม่คำนึงถึงค่าในฟิลด์รายการสำหรับเลือกที่กำหนดการแสดงโครงร่างเพจแบบไดนามิกไว้

    ตัวอย่างเช่น สมมติว่าใช้โครงร่างแบบไดนามิกในประเภทเรคคอร์ดบริษัทตามที่อธิบายไว้ก่อนหน้า หากผู้ใช้เปลี่ยนแปลงโครงร่างของส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องขณะที่ทำงานในเพจรายละเอียดของบริษัท ซึ่งมีประเภทบริษัทเป็น คู่แข่ง จะเป็นการใช้โครงร่างส่วนบุคคลของส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องในเพจรายละเอียดสำหรับเรคคอร์ดบริษัททั้งหมด โดยไม่คำนึงถึงประเภทบริษัท

    หลังจากที่มีการทำโครงร่างให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคล การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่ผู้ใช้ได้กระทำต่อโครงร่างส่วนบุคคลจะปรากฏอยู่ในเพจรายละเอียดสำหรับเรคคอร์ดทั้งหมดของประเภทเรคคอร์ดนั้น หากผู้ใช้รีเซ็ตโครงร่างของส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวข้องสำหรับประเภทเรคคอร์ดเป็นโครงร่างเพจดีฟอลต์สำหรับบทบาทของผู้ใช้ ระบบจะใช้โครงร่างเพจแบบไดนามิกกับประเภทเรคคอร์ดที่ใช้ในเพจเรคคอร์ดรายละเอียด

    ตัวอย่างเช่น สมมติว่าใช้โครงร่างแบบไดนามิกในประเภทเรคคอร์ดบริษัทตามที่อธิบายไว้ก่อนหน้า หลังจากผู้ใช้รีเซ็ตโครงร่างของส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวข้องสำหรับประเภทเรคคอร์ดบริษัท เป็นค่าดีฟอลต์ของโครงร่างเพจสำหรับบทบาทผู้ใช้แล้ว ระบบจะใช้โครงร่างแบบไดนามิกที่เหมาะสมกับประเภทบริษัท คู่แข่ง หรือลูกค้า

  • หากมีการเลือกช่องทำเครื่องหมาย ใช้งานการทำให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของโครงร่างเพจแบบไดนามิกแต่ละโครงร่าง ในโปรไฟล์บริษัท ผู้ใช้จะสามารถเลือกจัดทำโครงร่างส่วนบุคคลของส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้กับค่าแต่ละค่าในฟิลด์รายการสำหรับเลือกซึ่งจะกำหนดการแสดงโครงร่างเพจแบบไดนามิก ทั้งนี้ ระบบจะใช้โครงร่างส่วนบุคคลของผู้ใช้กับค่ารายการสำหรับเลือกในทุกๆ ครั้งที่ผู้ใช้เปิดเรคคอร์ดประเภทดังกล่าว ซึ่งได้เลือกค่ารายการสำหรับเลือกไว้

    หลังจากที่ผู้ใช้จัดทำโครงร่างส่วนบุคคลของส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวข้องสำหรับค่ารายการสำหรับเลือก ผู้ใช้จะสามารถเปลี่ยนแปลงโครงร่างส่วนบุคคลได้อีกครั้ง หรือจะสามารถจัดทำโครงร่างส่วนบุคคลให้กับค่าอื่นๆ ในรายการสำหรับเลือกได้ นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเลือกรีเซ็ตโครงร่างของส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวข้องของค่ารายการสำหรับเลือกทั้งหมดให้เป็นโครงร่างเพจดีฟอลต์ได้อีกด้วย

ไม่ว่าการตั้งค่าในช่องทำเครื่องหมาย ใช้งานการทำให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของโครงร่างเพจแบบไดนามิกแต่ละโครงร่าง ในโปรไฟล์บริษัทจะมีลักษณะอย่างไร การโต้ตอบระหว่างโครงร่างส่วนบุคคลของส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวข้องของผู้ใช้และโครงร่างเพจสำหรับบทบาทของผู้ใช้จะมีลักษณะดังนี้:

  • หากผู้ดูแลระบบของบริษัทของคุณเปลี่ยนแปลงรายการส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่ปรากฏและใช้งานได้ในโครงร่างเพจดีฟอลต์สำหรับบทบาทผู้ใช้ การทำงานจะมีลักษณะดังนี้:
    • หากผู้ดูแลระบบของบริษัทย้ายส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่ไม่สามารถใช้งานได้ก่อนหน้านี้ไปยังรายการส่วนที่แสดงหรือรายการส่วนที่ใช้ได้ในโครงร่างเพจดีฟอลต์ ระบบจะไม่แสดงผลส่วนในโครงร่างส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องให้โดยอัตโนมัติ หากผู้ใช้ต้องการให้ส่วนที่ใช้ได้ใหม่ๆ ปรากฏขึ้น ผู้ใช้ต้องแก้ไขโครงร่างส่วนบุคคลเพื่อเพิ่มส่วนให้กับรายการส่วนที่แสดง
    • หากผู้ดูแลระบบของบริษัทย้ายส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากรายการส่วนที่แสดงไปยังรายการส่วนที่ใช้ได้ในโครงร่างเพจดีฟอลต์ และหากมีส่วนปรากฏในโครงร่างเพจส่วนบุคคลของผู้ใช้แล้ว ส่วนดังกล่าวจะยังคงปรากฏให้ผู้ใช้เห็นต่อไปจนกว่าผู้ใช้จะลบออกจากรายการส่วนที่แสดงในโครงร่างส่วนบุคคล หรือรีเซ็ตโครงร่างเป็นโครงร่างดีฟอลต์
    • หากผู้ดูแลระบบของบริษัทย้ายส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปยังรายการส่วนที่ใช้ไม่ได้ในโครงร่างเพจดีฟอลต์ และหากมีส่วนปรากฏในโครงร่างเพจส่วนบุคคลของผู้ใช้แล้ว ส่วนดังกล่าวจะยังคงปรากฏในเพจรายละเอียดของเรคคอร์ดสำหรับผู้ใช้รายดังกล่าวต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ใช้แก้ไขโครงร่างส่วนบุคคลของเพจรายละเอียดในครั้งถัดไป ส่วนจะไม่ปรากฏในรายการส่วนที่แสดงของโครงร่างอีกต่อไป และหลังจากผู้ใช้คลิก บันทึก ในเพจโครงร่างส่วนบุคคล ระบบจะลบส่วนที่ใช้ไม่ได้ออกจากโครงร่างและจะไม่แสดงในเพจรายละเอียดของเรคคอร์ดอีกต่อไป

เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงตัวเลือกใช้งานการทำให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของโครงร่างเพจแบบไดนามิกแต่ละโครงร่าง

ผู้ดูแลระบบของบริษัทสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าของช่องทำเครื่องหมาย ใช้งานการทำให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของโครงร่างเพจแบบไดนามิกแต่ละโครงร่าง ในโปรไฟล์บริษัท หากคุณเปลี่ยนการตั้งค่าของช่องทำเครื่องหมาย โครงร่างของส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่ผู้ใช้มองเห็นอาจได้รับผลกระทบ ลักษณะที่ผู้ใช้เห็นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าจะขึ้นอยู่กับสิ่งต่อไปนี้:

  • เคยมีการเลือกช่องทำเครื่องหมายไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ เพราะการเลือกดังกล่าวจะทำให้ผู้ใช้สามารถจัดทำโครงร่างส่วนบุคคลของส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวข้องสำหรับค่ารายการสำหรับเลือกแต่ละค่าให้กับประเภทเรคคอร์ดได้
  • ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้เคยจัดทำโครงร่างส่วนบุคคลของส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวข้องรายการเดียวหรือหลายรายการให้กับเพจที่ใช้โครงร่างแบบไดนามิกหรือไม่

ตารางต่อไปนี้แสดงลักษณะที่ผู้ใช้จะได้เห็น เมื่อมีการยกเลิกการเลือกช่องทำเครื่องหมาย ใช้งานการทำให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของโครงร่างเพจแบบไดนามิกแต่ละโครงร่าง ไว้ในปัจจุบัน และคุณเลือกช่องทำเครื่องหมายดังกล่าว

ผู้ใช้เคยจัดทำโครงร่างส่วนบุคคลรายการเดียวให้กับประเภทเรคคอร์ดแล้วก่อนหน้านี้หรือไม่

ผู้ใช้เคยจัดทำโครงร่างส่วนบุคคลสำหรับค่ารายการสำหรับเลือกแต่ละค่าให้กับประเภทเรคคอร์ดแล้วก่อนหน้านี้หรือไม่

 

ลักษณะหลังจากที่เลือกช่องทำเครื่องหมาย

ใช่

ไม่

ผู้ใช้เห็นชุดโครงร่างเพจแบบไดนามิกดีฟอลต์ที่ระบุให้กับบทบาทของประเภทเรคคอร์ด

ใช่

ใช่

ผู้ใช้เห็นโครงร่างส่วนบุคคลที่ผู้ใช้เคยจัดทำไว้ก่อนหน้านี้สำหรับค่ารายการสำหรับเลือกแต่ละค่า

ไม่

ไม่

ผู้ใช้เห็นชุดโครงร่างเพจแบบไดนามิกดีฟอลต์ที่ระบุให้กับบทบาทของประเภทเรคคอร์ด

ไม่

ใช่

ผู้ใช้เห็นโครงร่างส่วนบุคคลที่ผู้ใช้เคยจัดทำไว้ก่อนหน้านี้สำหรับค่ารายการสำหรับเลือกแต่ละค่า

ตารางต่อไปนี้แสดงลักษณะที่ผู้ใช้จะได้เห็น เมื่อมีการเลือกช่องทำเครื่องหมาย ใช้งานการทำให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของโครงร่างเพจแบบไดนามิกแต่ละโครงร่าง ไว้ในปัจจุบัน และคุณยกเลิกการเลือกช่องทำเครื่องหมายดังกล่าว

ผู้ใช้เคยจัดทำโครงร่างส่วนบุคคลรายการเดียวให้กับประเภทเรคคอร์ดแล้วก่อนหน้านี้หรือไม่

ผู้ใช้เคยจัดทำโครงร่างส่วนบุคคลสำหรับค่ารายการสำหรับเลือกแต่ละค่าให้กับประเภทเรคคอร์ดแล้วก่อนหน้านี้หรือไม่

 

ลักษณะหลังจากที่ยกเลิกการเลือกช่องทำเครื่องหมาย

ใช่

ไม่

ผู้ใช้เห็นโครงร่างส่วนบุคคลรายการเดียวที่ผู้ใช้เคยจัดทำไว้ก่อนหน้านี้

ใช่

ใช่

ผู้ใช้เห็นโครงร่างส่วนบุคคลรายการเดียวที่ผู้ใช้เคยจัดทำไว้ก่อนหน้านี้

ไม่

ไม่

ผู้ใช้เห็นชุดโครงร่างเพจแบบไดนามิกดีฟอลต์ที่ระบุให้กับบทบาทของประเภทเรคคอร์ด

ไม่

ใช่

ผู้ใช้เห็นชุดโครงร่างเพจแบบไดนามิกดีฟอลต์ที่ระบุให้กับบทบาทของประเภทเรคคอร์ด

หมายเหตุ: หากโครงร่างส่วนบุคคลที่ผู้ใช้จัดทำขึ้นในอดีตมีแนวโน้มว่าจะแตกต่างจากโครงร่างดีฟอลต์ปัจจุบัน คุณอาจต้องการรีเซ็ตโครงร่างเพจสำหรับบทบาทให้เป็นโครงร่างดีฟอลต์ หลังจากที่คุณได้เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าของช่องทำเครื่องหมาย ใช้งานการทำให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของโครงร่างเพจแบบไดนามิกแต่ละโครงร่าง อย่างไรก็ตาม การรีเซ็ตโครงร่างเพจสำหรับบทบาทจะรีเซ็ตโครงร่างฟิลด์ส่วนบุคคล รวมถึงโครงร่างของส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้เป็นโครงร่างดีฟอลต์ นอกจากนี้ คุณยังอาจแนะนำให้ผู้ใช้รีเซ็ตโครงร่างของส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องของตนเป็นค่าดีฟอลต์ก็ได้เช่นกัน

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงร่างเพจ โปรดดูหัวข้อต่อไปนี้:


ตุลาคม 2016 ลิขสิทธิ์ © 2005, 2016, Oracle สงวนลิขสิทธ Legal Notices.