พิมพ์      เปิดเวอร์ชัน PDF ของวิธีใช้แบบออนไลน์


หัวข้อก่อนหน้า

หัวข้อถัดไป

เกี่ยวกับการค้นหาเป้าหมาย

คุณสามารถดำเนินการค้นหาได้สองประเภทใน Oracle CRM On Demand: คือ การค้นหาเป้าหมายและการค้นหาคำหลัก ผู้ดูแลระบบของบริษัทของคุณจะกำหนดประเภทการค้นหาที่จะใช้โดยค่าดีฟอลต์สำหรับบริษัทของคุณ โดยเลือกประเภทการค้นหาในเพจโปรไฟล์บริษัท การค้นหาเป้าหมายเป็นประเภทการค้นหาที่แนะนำ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการค้นหาคำหลัก โปรดดูที่ เกี่ยวกับการค้นหาคำหลัก

คุณสามารถใช้การค้นหาเป้าหมายในหลายๆ ตำแหน่งใน Oracle CRM On Demand ดังนี้:

  • ส่วนการค้นหาของแถบการดำเนินการ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประเภทของการค้นหาที่ผู้ดูแลระบบของบริษัทของคุณได้เลือกไว้สำหรับบริษัทของคุณ การค้นหาคำหลักหรือการค้นหาเป้าหมายจะใช้ในส่วนการค้นหาของแถบการดำเนินการสำหรับบริษัทของคุณ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการค้นหาเรคคอร์ดในแถบการดำเนินการ โปรดดูที่ การค้นหาเรคคอร์ดในแถบการดำเนินการ
  • วินโดว์การค้นหา ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประเภทการค้นหาที่ผู้ดูแลระบบของบริษัทของคุณได้เลือกไว้สำหรับบริษัทของคุณ การค้นหาคำหลักหรือการค้นหาเป้าหมายจะใช้ในวินโดว์การค้นหาที่คุณค้นหาเรคคอร์ดเพื่อเชื่อมโยงกับเรคคอร์ดที่คุณใช้งานอยู่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการค้นหาเรคคอร์ดในวินโดว์การค้นหา โปรดดูที่ การค้นหาเรคคอร์ดในวินโดว์การค้นหา
  • เพจการค้นหาขั้นสูงใน Oracle CRM On Demand ในเพจการค้นหาขั้นสูง ประเภทการค้นหาจะขึ้นอยู่กับตัวเลือกที่คุณเลือกดังนี้:
    • หากคุณค้นหาประเภทเรคคอร์ดหลายประเภท การค้นหาจะเป็นการค้นหาคำหลัก
    • หากคุณค้นหาประเภทเรคคอร์ดเดียว การค้นหานั้นคือการค้นหาเป้าหมาย

      สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้การค้นหาขั้นสูง โปรดดูที่ การใช้การค้นหาขั้นสูง

  • ฟิลด์ฟิลเตอร์ด่วนในเพจรายการ การค้นหาโดยใช้ฟิลด์ฟิลเตอร์ด่วนในเพจรายการเป็นการค้นหาเป้าหมายเสมอ แม้จะเลือกการค้นหาคำหลักเป็นประเภทการค้นหาดีฟอลต์สำหรับบริษัทของคุณ

สำหรับการค้นหาเป้าหมาย บทบาทผู้ใช้ของคุณจะกำหนดประเภทเรคคอร์ดที่คุณสามารถค้นหา และกำหนดฟิลด์ที่คุณสามารถค้นหาในเรคคอร์ดแต่ละประเภท ดังนี้:

  • หากผู้ดูแลระบบของบริษัทของคุณไม่ได้กำหนดฟิลด์ค้นหาที่ใช้ได้ไว้ในโครงร่างการค้นหาที่ระบุให้กับบทบาทผู้ใช้สำหรับประเภทเรคคอร์ด จะปรากฎลักษณะดังนี้:
    • คุณไม่สามารถค้นหาเรคคอร์ดประเภทนั้นในส่วนการค้นหาของแถบการดำเนินการ
    • คุณไม่สามารถระบุเกณฑ์การค้นหาสำหรับการค้นหาขั้นสูงของประเภทเรคคอร์ดนั้นได้ การดำเนินการค้นหาขั้นสูงโดยไม่มีเกณฑ์การค้นหาจะแสดงเรคคอร์ดทั้งหมดของประเภทเรคคอร์ดนั้นซึ่งการตั้งค่าบทบาทของผู้ใช้และการเข้าใช้อนุญาตให้คุณดูได้
    • คุณไม่สามารถใช้ฟิลด์ฟิลเตอร์ด่วนในวินโดว์การค้นหา
    • คุณไม่สามารถระบุเกณฑ์การค้นหาของรายการเรคคอร์ดของประเภทเรคคอร์ดนั้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดทำและการแก้ไขรายการ โปรดดูที่ การจัดทำและการแก้ไขรายการ
  • สำหรับประเภทเรคคอร์ดใดๆ คุณอาจเห็นฟิลด์ค้นหาหลายฟิลด์ในส่วนการค้นหาของแถบการดำเนินการ รวมถึงในฟิลด์ฟิลเตอร์ด่วนในวินโดว์การค้นหา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฟิลด์ที่ผู้ดูแลระบบของบริษัทของคุณทำให้สามารถใช้ได้ในโครงร่างการค้นหาที่ระบุให้กับบทบาทผู้ใช้ของคุณสำหรับประเภทเรคคอร์ดนั้น
  • หากมีการเปิดใช้งานสิทธิ์สำหรับ ฟิลด์ทั้งหมดในการค้นหาและรายการ สำหรับบทบาทผู้ใช้ของคุณ คุณจะสามารถค้นหาฟิลด์ค้นหาทั้งหมดที่ผู้ดูแลระบบของบริษัทคุณทำให้สามารถใช้งานได้ในโครงร่างการค้นหาที่กำหนดให้กับบทบาทผู้ใช้ของคุณสำหรับประเภทเรคคอร์ดนั้น ในตำแหน่งใดๆ ต่อไปนี้:
    • แถบการดำเนินการ
    • วินโดว์การค้นหา
    • การค้นหาขั้นสูง

      หมายเหตุ: ขอแนะนำไม่ให้ผู้ดูแลระบบของบริษัทเปิดใช้สิทธิ์ ฟิลด์ทั้งหมดในการค้นหาและรายการ แก่บทบาทผู้ใช้ส่วนใหญ่ เมื่อไม่มีการใช้งานสิทธิ์นี้ ฟิลด์ที่บริษัทของคุณไม่ใช้จะไม่ปรากฏในเพจการค้นหาและรายการ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการติดขัดและช่วยให้ผู้ใช้สามารถเห็นฟิลด์ที่ตนสนใจที่สุดได้ง่ายยิ่งขึ้น

  • หากสิทธิ์สำหรับฟิลด์ทั้งหมดในการค้นหาและรายการไม่มีการใช้งานสำหรับบทบาทผู้ใช้ของคุณ คุณสามารถค้นหาฟิลด์ในแถบการดำเนินการ วินโดว์การค้นหา หรือการค้นหาขั้นสูง เฉพาะเมื่อฟิลด์ตรงตามทั้งสองเกณฑ์ต่อไปนี้:
    • ฟิลด์นั้นเป็นฟิลด์ค้นหาที่สามารถใช้งานได้ในโครงร่างการค้นหาที่กำหนดให้กับบทบาทผู้ใช้ของคุณสำหรับประเภทเรคคอร์ดนั้น
    • ฟิลด์จะแสดงในโครงร่างเพจรายละเอียดที่ระบุให้กับบทบาทผู้ใช้ของคุณสำหรับประเภทเรคคอร์ดนั้น หากมีการกำหนดโครงร่างเพจไดนามิกสำหรับบทบาทของคุณ ฟิลด์ต้องแสดงในโครงร่างเพจแบบไดนามิกอย่างน้อยหนึ่งรายการ

      หมายเหตุ: โครงร่างแบบไดนามิก เป็นโครงร่างเพจที่แสดงชุดฟิลด์ต่างๆ ของเรคคอร์ดที่เป็นประเภทเรคคอร์ดเดียวกัน ขึ้นอยู่กับค่ารายการสำหรับเลือกที่คุณเลือกในบางฟิลด์ของเรคคอร์ด

การค้นหาเป้าหมายแสดงเรคคอร์ดที่มีค่าซึ่งคุณระบุในฟิลด์การค้นหาตรงกับค่าที่สัมพันธ์กันในเรคคอร์ดของประเภทเรคคอร์ดที่คุณเลือก การค้นหาจะแสดงเฉพาะเรคคอร์ดที่ตรงกันสำหรับแต่ละค่าที่คุณป้อน ซึ่งเท่ากับการใช้เงื่อนไข AND ระหว่างฟิลด์การค้นหา หากคุณปล่อยฟิลด์การค้นหาเว้นว่างไว้ ฟิลด์นั้นจะไม่อยู่ในการค้นหา อย่างไรก็ตาม หากฟิลด์ช่องทำเครื่องหมายปรากฏอยู่ในโครงร่างการค้นหา ค่าของฟิลด์ช่องทำเครื่องหมายจะถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์การค้นหาเสมอ หากคุณเลือกช่องทำเครื่องหมาย Oracle CRM On Demand จะตีความค่าของช่องทำเครื่องหมายเป็น จริง หรือ ใช่ หากคุณยกเลิกการเลือกช่องทำเครื่องหมาย Oracle CRM On Demand จะตีความค่าของช่องทำเครื่องหมายเป็น เท็จ หรือ ไม่

โครงร่างการค้นหาที่ระบุให้กับบทบาทผู้ใช้ของคุณสำหรับประเภทเรคคอร์ด จะกำหนดฟิลด์ที่แสดงเป็นคอลัมน์ในรายการเรคคอร์ด ที่มาจากการค้นหาเรคคอร์ดประเภทนั้น

หมายเหตุ: คุณไม่สามารถระบุค่านัลในฟิลด์ในการค้นหาจากแถบการดำเนินการ หากต้องการระบุค่านัล คุณต้องใช้การค้นหาขั้นสูง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ การใช้การค้นหาขั้นสูง

เกี่ยวกับการใช้ไวด์การ์ดในการค้นหาเป้าหมาย

ตามค่าดีฟอลต์ ค่าการค้นหาทุกค่าที่ป้อนในฟิลด์การค้นหาเป้าหมายจะมีไวด์การ์ดหรือเครื่องหมายดอกจัน (*) อยู่ด้วย เพื่อให้คุณไม่ต้องเพิ่มไวด์การ์ดในสตริงการค้นหาของคุณ คุณสามารถเพิ่มไวด์การ์ดนำหน้าค่าการค้นหา หรือคุณสามารถใช้ไวด์การ์ดระหว่างค่าการค้นหา คุณไม่สามารถใช้ไวด์การ์ดในรายการสำหรับเลือกซึ่งมีการกำหนดค่าล่วงหน้า ตัวอย่างเช่น ในการค้นหาเป้าหมายสำหรับเรคคอร์ดบริษัท โครงร่างการค้นหาดีฟอลต์ให้คุณสามารถป้อนสตริงการค้นหาสำหรับฟิลด์ชื่อบริษัทและฟิลด์ที่ตั้ง ทั้งสองฟิลด์เหล่านี้ไม่ต้องคำนึงถึงตัวพิมพ์ที่ตรงกัน หากคุณป้อน C ในฟิลด์ชื่อบริษัท และ Head ในฟิลด์ที่ตั้ง ระบบจะตีความนิพจน์การค้นหาเป้าหมายออกมาในลักษณะดังนี้:

แสดงบริษัททั้งหมดที่ชื่อบริษัทมีลักษณะเป็น C* และที่ตั้งเป็น Head*

การค้นหาจะแสดงบริษัททั้งหมดที่ชื่อบริษัทขึ้นต้นด้วยอักษร C (ตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก) และที่ค่าในฟิลด์ที่ตั้งขึ้นต้นด้วยคำว่า Head (ตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็กรวมกัน)

หมายเหตุ: การใช้ไวด์การ์ดจะมีผลกับประสิทธิภาพการค้นหา การค้นหาที่มีค่าการค้นหานำหน้าด้วยไวด์การ์ดจะทำงานช้าที่สุด

การใช้ไวด์การ์ดจะถูกจำกัดเมื่อคุณค้นหาข้อมูลที่ตรงกันทั้งหมดตามที่อธิบายไว้ในส่วนต่อไปนี้

เกี่ยวกับการค้นหาข้อมูลที่ตรงกันทั้งหมด

หากคุณทราบค่าที่ตรงกันในฟิลด์บนเรคคอร์ดที่คุณกำลังค้นหา คุณสามารถค้นหาข้อมูลที่ตรงกันทั้งหมดโดยใส่เครื่องหมายเท่ากับ (=) นำหน้าสตริงค้นหา เมื่อคุณใส่เครื่องหมายเท่ากับนำหน้าสตริงค้นหา การค้นหาเป้าหมายจะทำงานดังนี้:

  • ไวด์การ์ดจะไม่ปรากฏรวมอยู่ที่ท้ายสตริงค้นหา

    หากฟิลด์ค้นหาเป็นฟิลด์ที่ต้องมีตัวพิมพ์ที่ตรงกัน การค้นหาจะแสดงข้อมูลที่ตรงกับสตริงค้นหาทั้งหมด หากฟิลด์ค้นหาเป็นฟิลด์ที่ไม่คำนึงถึงตัวพิมพ์ที่ตรงกัน การค้นหาจะแสดงข้อมูลที่ตรงกันรวมถึงข้อมูลที่มีตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็กรวมกัน

    ตัวอย่างเช่น หากคุณป้อน =Acme เป็นค่าการค้นหาในฟิลด์ชื่อบริษัท การค้นหาจะแสดงเรคคอร์ดบริษัททั้งหมดที่มีชื่อบริษัทเป็น Acme หรือ ACME หรือที่มีตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็กผสมกัน เนื่องจากชื่อบริษัทเป็นฟิลด์ที่ไม่คำนึงถึงตัวพิมพ์ที่ตรงกัน การค้นหาจะไม่แสดงเรคคอร์ดใดๆ ที่ชื่อบริษัทมีคำว่า Acme และมีอักขระอื่นๆ อยู่ด้วย เช่น Acme Inc, Acme Incorporated หรือ Acme SuperStore

  • หากคุณใช้ไวด์การ์ดในสตริงค้นหาอย่างชัดเจน ไวด์การ์ดจะถือเป็นข้อความ

    ตัวอย่างเช่น สมมติว่ามีเรคคอร์ดบริษัทสองเรคคอร์ดที่มีชื่อบริษัทว่า: Acme* และ Acme Super Store หากคุณป้อน =Acme* ในฟิลด์ค้นหาชื่อบริษัท การค้นหาจะแสดงเรคคอร์ดที่ชื่อบริษัทเป็น Acme* การค้นหาจะไม่แสดงเรคคอร์ดที่ชื่อบริษัทเป็น Acme Super Store

  • หากค่าฟิลด์ในเรคคอร์ดเริ่มต้นด้วยเครื่องหมายเท่ากับ เฉพาะเครื่องหมายเท่ากับลำดับที่สองที่คุณป้อนในฟิลด์ค้นหาเท่านั้นจะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสตริงค้นหา

    ตัวอย่างเช่น สมมติว่ามีเรคคอร์ดบริษัทสองเรคคอร์ดที่มีชื่อบริษัทว่า =Acme Super Store และ Acme Super Store หากคุณป้อน ==Acme Super Store ในฟิลด์ค้นหาชื่อบริษัท การค้นหาจะแสดงเรคคอร์ดที่ชื่อบริษัทเป็น =Acme Super Store การค้นหาจะไม่แสดงเรคคอร์ดที่ชื่อบริษัทเป็น Acme Super Store

ข้อจำกัดต่อไปนี้ใช้กับการใช้เครื่องหมายเท่ากับเป็นคำนำหน้า:

  • ไม่สามารถใช้เครื่องหมายเท่ากับนำหน้าฟิลด์ค้นหาของประเภทฟิลด์โทรศัพท์
  • คุณไม่สามารถใช้เครื่องหมายเท่ากับนำหน้าค่าในฟิลด์ค้นหารายการสำหรับเลือก

กันยายน 2017 ลิขสิทธิ์ © 2005, 2017, Oracle สงวนลิขสิทธ Legal Notices.