ตัวเลือกอื่นๆ

ระบุว่าจะใช้งาน (ปิด) หรือเลิกใช้ (เปิด) การลบคำต่อท้ายอัตโนมัติจากคอลัมน์ varchar ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณสมบัตินี้ถูกใช้งาน (ปิด) เมื่อผู้ใช้เริ่มป้อนค่าในฟิลด์ ไดอะล็อกฟิลเตอร์ฟิลเตอร์จะตัดคำต่อท้ายใดๆ โดยอัตโนมัติ

• เปิด —เก็บช่องว่างต่อท้ายในคอลัมน์ varchar ไว้ หากคุณใช้ที่มา Oracle Database เป็นหลัก คุณอาจต้องการเก็บลักษณะการทำงานของ Oracle Database ดีฟอลต์สำหรับการเก็บช่องว่างต่อท้ายไว้ แทนที่จะลบออก เมื่อคุณสลับเปิดคุณสมบัตินี้ คุณจะสามารถหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของการตัดช่องว่าง และจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้

  หากคุณเลิกใช้คุณสมบัตินี้ (ตั้งค่าเป็น เปิด) และคุณสร้างฟิลเตอร์ เช่น PRODUCT_DESCRIPTION = 'ผลิตภัณฑ์ของฉัน ') คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าจำนวนช่องว่างต่อท้ายที่ใช้ตรงกับค่าคอลัมน์ varchar พอดี ไม่เช่นนั้น ฟิลเตอร์จะไม่ตรงกับค่าข้อมูลอย่างถูกต้อง

• ปิด —ตัดช่องว่างต่อท้ายในคอลัมน์ varchar เมื่อประมวลผลการสืบค้น นี่คือค่าดีฟอลต์สำหรับ Oracle Analytics ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ป้อนข้อความ 'ผลิตภัณฑ์ของฉัน ' ระบบจะตัดเป็น 'ผลิตภัณฑ์ของฉัน'

ดีฟอลต์: ปิด

ต้องใช้: ใช่

การเปลี่ยนแปลงมีผล: หลังจากสองสามนาที

คีย์ API: DataQueryDisableRightTrimVARCHARData

Edition: Professional และEnterprise

ระบุว่าคำขอย่อยไปยังฐานข้อมูลที่มาจะรันแยกต่างหากเป็นการสืบค้นแบบสแตนด์อโลน หรือรันพร้อมกัน ตามค่าดีฟอลต์ คำขอย่อยจะส่งแยกต่างหาก ซึ่งอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้หากคุณรันรายงานที่ซับซ้อนที่มีคำขอย่อยกลุ่มใหญ่ ซึ่งก็คือ คุณต้องการที่จะส่งคำขอย่อยแยกต่างหากในการสืบค้นแบบง่ายหลายรายการ แทนที่จะส่งการสืบค้นแบบซับซ้อนขนาดใหญ่รายการเดียวในครั้งเดียว

ใน Oracle BI Enterprise Edition ค่าดีฟอลต์ตั้งค่าเป็น NO หากคุณได้ใช้ Oracle BI Enterprise Edition และต้องการเก็บการทำงานดีฟอลต์ก่อนหน้าไว้ ให้ตั้งคุณสมบัตินี้เป็น NO เพื่อที่คุณจะได้รันคำขอย่อยของฐานข้อมูลพร้อมกันต่อไป

• ดีฟอลต์ — คำขอย่อยของฐานข้อมูลส่งแยกกันต่างหาก มีความหมายเหมือนค่า YES
• YES — คำขอย่อยของฐานข้อมูลส่งแยกกันต่างหาก
• NO — คำขอย่อยของฐานข้อมูลส่งพร้อมกันทั้งหมดในครั้งเดียว

ดีฟอลต์: ดีฟอลต์

ต้องใช้: ใช่

การเปลี่ยนแปลงมีผล: หลังจากสองสามนาที

คีย์ API: EnableSubrequestShipping

Edition: Professional และEnterprise

กำหนดว่าลิงค์การดำเนินการที่ผู้ใช้เพิ่มในการวิเคราะห์และแผงข้อมูลสามารถเรียกใช้ URL ใดก็ได้ หรือเฉพาะ URL ที่ผู้ดูแลระบบระบุไว้ในลิสต์โดเมนที่ปลอดภัยเท่านั้น

• เปิด — ไม่อนุญาตให้เรียกใช้ URL ใดก็ได้ที่ไม่อยู่ในลิสต์โดเมนที่ปลอดภัย
• ปิด — อนุญาตให้เรียกใช้ URL ใดก็ได้ แม้ว่าจะเป็น URL ที่ไม่อยู่ในลิสต์โดเมนที่ปลอดภัย

ดีฟอลต์: เปิด สำหรับบริการใหม่ล่าสุด และ ปิด สำหรับบริการที่มีอยู่

ต้องใช้: ไม่

การเปลี่ยนแปลงมีผล: หลังจากสองสามนาที

คีย์ API: EnforceSafeDomainsActions

Edition: Enterprise เท่านั้น

ระบุว่าผู้ใช้สามารถดูสมาชิกไดเมนชัน EPM ทั้งหมดในลิสต์ค่าพรอมต์ลำดับชั้นได้หรือไม่ หรือเมื่อเพิ่มลำดับชั้นไปยังแคนวาส แม้ว่าจะไม่มีสิทธิเข้าถึงสมาชิกบางรายก็ตาม

• เปิด —แสดงเฉพาะสมาชิกของไดเมนชัน EPM ที่ผู้ใช้มีสิทธ์เข้าถึง

  หากการตั้งค่านี้คือ เปิด ผู้ใช้ที่ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงสมาชิกรูทของลำดับชั้นไดเมนชันจะไม่เห็นสมาชิก EPM ทั้งหมดในลำดับชั้นหรือพรอมต์ลำดับชั้น

• ปิด — ผู้ใช้สามารถดูสมาชิกทั้งหมดในไดเมนชัน EPM แม้ว่าจะไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเพื่อดูข้อมูลสำหรับสมาชิกบางรายก็ตาม

ดีฟอลต์: Off

ต้องใช้: ใช่

การเปลี่ยนแปลงมีผล: หลังจากสองสามนาที

คีย์ API: HideEPMCloudMembersWithNoAccess

Edition: Professional และEnterprise

ระบุว่าจะแสดงข้อความแบบละเอียดระหว่างการประมวลผลโหลดข้อมูลหรือไม่

• เปิด — ข้อความการโหลดแบบละเอียดจะถูกซ่อนและข้อความแบบง่าย กำลังโหลด... จะปรากฏขึ้นแทน

• ปิด — ข้อความการโหลดแบบละเอียดจะปรากฏขึ้น

ดีฟอลต์: Off

ต้องใช้: ไม่

การเปลี่ยนแปลงมีผล: หลังจากสองสามนาที

คีย์ API: HideLoadingMessages

Edition: Professional และEnterprise

ใช้กับเนื้อหาที่ย้ายมาจาก Oracle BI Enterprise Edition

หลังจากที่คุณย้ายเนื้อหาจากสภาพแวดล้อมการทำงานของ Oracle BI Enterprise Edition ไปยัง Oracle Analytics คุณอาจเห็นภาษาที่ต่างออกไปในข้อความ วันที่ หรือสกุลเงินของการวิเคราะห์

ตัวอย่างเช่น หากคุณดูการวิเคราะห์ที่ย้ายมาในภาษาโปแลนด์ สกุลเงินหรือวันที่อาจแสดงตามโลแคลดีฟอลต์ของ Oracle Analytics ไม่ใช่โลแคลเดิมของ Oracle BI Enterprise หากต้องการคงสกุลเงินและวันที่ของ Oracle BI Enterprise Edition ไว้ใน Oracle Analytics ให้เปลี่ยนการตั้งค่านี้เป็น Polish

ต้องใช้: ใช่

การเปลี่ยนแปลงมีผล: หลังจากสองสามนาที

คีย์ API: DataQueryLocale

Edition: Professional และEnterprise

ระบุพาธของเพจแผงข้อมูลที่แสดงตามค่าดีฟอลต์เมื่อผู้ใช้เข้าสู่ระบบ Oracle Analytics ตัวอย่างเช่น /shared/<folder>/_portal/<name>

คุณสามารถระบุพาธเดียวสำหรับผู้ใช้ทุกราย และหลายพาธตามบทบาทผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น {"application role 1":"catalog dashboard path 1","application role 2":"catalog dashboard path 2","default":"catalog dashboard path 3"}

การตั้งค่านี้ใช้กับผู้ใช้ทั้งหมด แต่ผู้ใช้สามารถแทนที่หลังจากเข้าสู่ระบบแล้วได้

คุณสามารถป้อนได้สูงสุด 5,000 อักขระเท่านั้นในฟิลด์นี้

ต้องใช้: ไม่

การเปลี่ยนแปลงมีผล: หลังจากสองสามนาที

คีย์ API: PortalPath

Edition: Enterprise เท่านั้น

ระบุว่าจะบังคับการตรวจสอบประเภทข้อมูลแบบต่อเนื่องที่เข้มงวด สำหรับการเปรียบเทียบระหว่างประเภทข้อมูลที่เหมือนกัน (เช่น จำนวนเต็มกับจำนวนเต็ม) หรือประเภทข้อมูลที่ใช้งานร่วมกันไม่ได้ (เช่น จำนวนเต็มกับจำนวนเต็มแบบสั้น) ในที่มาข้อมูลทั้งหมดหรือกับชุดข้อมูลทั้งหมด

• เปิด — บังคับการตรวจสอบแบบต่อเนื่องที่เข้มงวดสำหรับประเภทข้อมูลที่เหมือนกันหรือใช้งานร่วมกันไม่ได้ในที่มาข้อมูลหรือชุดข้อมูลทั้งหมด

• ปิด — ไม่บังคับการตรวจสอบแบบต่อเนื่องที่เข้มงวดสำหรับประเภทข้อมูลวันที่และเวลาในที่มาข้อมูลหรือชุดข้อมูลทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีความไม่สอดคล้องกันของประเภทข้อมูลมากเกินไป คุณอาจต้องเปลี่ยนแปลงประเภทข้อมูลเพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ หรือใช้ค่าคงที่ของประเภทข้อมูลที่ถูกต้องเมื่อเปรียบเทียบคอลัมน์กับค่า ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณย้ายเนื้อหาจาก Oracle BI Enterprise Edition ไปยัง Oracle Analytics แล้ว คุณอาจเริ่มมองเห็นข้อผิดพลาดในการตรวจสอบประเภทนี้ในรายงานของคุณ เนื่องจากเวอร์ชันแบบง่ายของ Oracle BI Enterprise Edition ไม่ได้บังคับใช้การตรวจนสอบที่เข้มงวด ดังนี้

  [nQSError: 22024] มีการเปรียบเทียบระหว่างประเภทที่ไม่สามารถใช้ร่วมกันอย่าง <type1> และ <type2>

ดีฟอลต์: On

ต้องใช้: ใช่

การเปลี่ยนแปลงมีผล: หลังจากสองสามนาที

คีย์ API: RecursiveDatetimeTypeChecking

Edition: Professional และEnterprise

ระบุว่าเซลล์ที่ครอบคลุมแถวและเซลล์ที่ครอบคลุมคอลัมน์จะแสดงซ้ำหรือไม่เมื่อเอ็กซ์ปอร์ตตารางและตารางเปลี่ยนจุดอ้างอิงไปยัง Excel

• เปิด — หากเปิด เซลล์ที่ครอบคลุมแถวและเซลล์ที่ครอบคลุมคอลัมน์จะถูกทำซ้ำ ไม่ว่าการตั้งค่า "การซ่อนค่า" ในโปรแกรมแก้ไขการวิเคราะห์จะเป็นอย่างไรก็ตาม
• ปิด — หากปิด "การซ่อนค่า" ระบุว่าเซลล์ที่ครอบคลุมแถวและเซลล์ที่ครอบคลุมคอลัมน์จะแสดงซ้ำหรือไม่เมื่อเอ็กซ์ปอร์ตตารางและตารางเปลี่ยนจุดอ้างอิงไปยัง Excel

ดีฟอลต์: Off

ต้องใช้: ไม่

การเปลี่ยนแปลงมีผล: หลังจากสองสามนาที

คีย์ API: AnalysisRepeatRowsExcelExportsTablesPivots

Edition: Enterprise เท่านั้น

ระบุว่าจะจัดเรียงค่า NULL ก่อนค่าอื่นๆ (เปิด) หรือหลัง (ปิด) เลือกค่าที่ตรงกับฐานข้อมูลของคุณ หากการตั้งค่านี้ไม่ตรงกับการตั้งค่าฐานข้อมูลของคุณ การตั้งค่าฐานข้อมูลจะมาก่อน

• เปิด — จัดเรียงค่า NULL ก่อนค่าอื่นๆ
• ปิด — จัดเรียงค่า NULL หลังค่าอื่นๆ

ดีฟอลต์: Off

ต้องใช้: ใช่

การเปลี่ยนแปลงมีผล: หลังจากสองสามนาที

คีย์ API: SortNullValuesFirst

Edition: Professional และEnterprise

ใช้กับเนื้อหาที่ย้ายมาจาก Oracle BI Enterprise Edition

หลังจากที่คุณย้ายเนื้อหาจากสภาพแวดล้อมการทำงานของ Oracle BI Enterprise Edition ไปยัง Oracle Analytics คุณอาจพบว่ามีลักษณะการจัดเรียงที่ต่างออกไปในการวิเคราะห์

ตัวอย่างเช่น หากคุณดูการวิเคราะห์ที่ย้ายมาในภาษาโปแลนด์ อักษรตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็กอาจจัดเรียงตามโลแคลดีฟอลต์ของ Oracle Analytics ไม่ใช่โลแคลเดิมของ Oracle BI Enterprise หากต้องการคงลักษณะการจัดเรียงของ Oracle BI Enterprise Edition ไว้ใน Oracle Analytics ให้เปลี่ยนการตั้งค่านี้เป็น Polish

ต้องใช้: ใช่

การเปลี่ยนแปลงมีผล: หลังจากสองสามนาที

คีย์ API: DataQuerySortOrderLocale

Edition: Professional และEnterprise

ระบุรูปแบบ URL ของ Oracle Analytics Cloud ที่มีการใช้เพื่อใช้ลิงค์ไปยังการแสดงข้อมูลเวิร์กบุคในอีเมล์ตามกำหนดการร่วมกัน หากหน่วยงานของคุณตั้งค่า URL แบบย่อสำหรับระบบของคุณ ให้ป้อน URL แบบย่อที่มีอยู่ที่คุณต้องการใช้ในรูปแบบ: https://myvanity.com/ui/

หรืออีกวิธีหนึ่งคือ เว้นว่างการตั้งค่าเพื่อใช้รูปแบบ URL มาตรฐานในอีเมล์ โปรดดู ใช้การแสดงข้อมูลร่วมกันโดยใช้กำหนดการของอีเมล์เวิร์กบุค

โปรดดูเพิ่มเติมที่ ตั้งค่า URL แบบย่อที่กำหนดเอง

ต้องใช้: ไม่

การเปลี่ยนแปลงมีผล: หลังจากสองสามนาที

คีย์ API: VanityURLShareContentInEmail

Edition: Enterprise เท่านั้น