สร้างประเภทเนื้อหา

1. เข้าสู่ระบบในฐานะผู้ดูแลเนื้อหาบนเบราเซอร์ของคุณ แล้วคลิก เนื้อหา ใต้ การดูแลระบบ ในเมนูการนาวิเกตทางซ้าย
2. เลือก ประเภทข้อมูล จากเมนูแบบดรอปดาวน์
3. ในการสร้างประเภทเนื้อหาใหม่ ให้คลิกที่ สร้าง
4. ป้อนชื่อและคำอธิบายที่เลือกระบุได้สำหรับประเภทเนื้อหาของคุณ
5. เลือก สร้างประเภทรายการเนื้อหา แล้วคลิก สร้าง
6. ลากฟิลด์ข้อมูลไปยังการกำหนดประเภทเนื้อหา
7. เพจการตั้งค่าสำหรับฟิลด์ข้อมูลเปิด:
   • ป้อนที่ชื่อปรากฏและคำอธิบายที่เลือกระบุได้สำหรับฟิลด์ข้อมูลของคุณ
   • หรือเลือกแก้ไขชื่อฟิลด์ ชื่อนี้ต้องไม่ซ้ำกัน
   • หากคุณเลือกข้อความ สื่อ หรือการอ้างอิง ให้เลือกว่าจะอนุญาตให้ป้อนค่าในฟิลด์ได้เพียงค่าเดียวหรือหลายค่า รวมถึงจำนวนของค่าที่อนุญาต
   • เลือกว่าจะกำหนดให้ฟิลด์เป็นฟิลด์ที่จำเป็นหรือไม่ เมื่อผู้ใช้ส่งเนื้อหา
   • หากคุณเลือกสื่อหรือการอ้างอิง ให้เลือกว่าข้อมูลที่อ้างอิงจะเผยแพร่ทุกครั้งกับข้อมูลหลักหรือเฉพาะเมื่อข้อมูลอ้างอิงยังไม่ได้เผยแพร่เท่านั้น
   • เลือกหากค่าฟิลด์ควรรับมาจากประเภทหลัก ตัวอย่างเช่น คุณอาจต้องการให้ฟิลด์ข้อความแสดงชื่อบริษัทหรือสัญลักษณ์หุ้นขณะป้อนเมื่อรายการเนื้อหาได้รับการสร้างขึ้นโดยใช้ประเภทเนื้อหานี้กับทุกภาษา หรือคุณอาจต้องการให้ป็อปปูเลทฟิลด์รูปภาพล่วงหน้าให้ใช้โลโก้บริษัทที่ได้รับการอนุมัติแล้วสำหรับทุกภาษาทุกครั้ง

     หมายเหตุ:

     เมื่อเลือก รับค่าจากรายการหลัก ระบบจะเลือก ไม่แปล ให้โดยอัตโนมัติ หากแก้ไขประเภทเนื้อหาที่ใช้เพื่อสร้างรายการเนื้อหาของภาษาต่างๆ ไว้อยู่แล้ว การเลือก รับค่าจากรายการหลัก จะทำให้ค่าฟิลด์ในรายการร่างที่มีอยู่ใช้ค่าในรายการหลัก หากภาษาได้รับการเผยแพร่แล้ว ค่าที่มีอยู่แล้วจะยังคงใช้งานต่อไปจนกว่าจะมีการเผยแพร่รายการร่างใหม่ของภาษานั้น
   • หากคุณเลือกข้อความ ข้อความขนาดใหญ่ หรือเนื้อหาที่รวม โปรดเลือกว่าต้องการแปลหรือไม่แปลข้อมูลที่ป้อนลงในฟิลด์ ตัวอย่างเช่น อาจต้องการแปลคำอธิบายผลิตภัณฑ์ แต่อาจต้องการใช้ชื่อผลิตภัณฑ์หรือชื่อแบรนด์เป็นภาษาเริ่มต้นเท่านั้น
   • นอกจากนี้ หากคุณได้เลือกข้อความ ข้อความขนาดใหญ่ หรือเนื้อหาที่รวม คุณสามารถเลือกแสดงความเห็นหรือระบุหมายเหตุที่เป็นคำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้แปลได้ด้วย
8. บนเพจลักษณะที่ปรากฏของฟิลด์ข้อมูล ให้ตั้งค่าลักษณะของฟิลด์ข้อมูลที่ต้องการให้แสดง และตั้งค่าว่าคุณต้องการใช้การตรวจสอบชนิดใดๆ หรือไม่ โดยฟิลด์ข้อมูลแต่ละรายการจะมีค่าลักษณะที่ปรากฏที่แตกต่างกัน เช่น การตรวจสอบ ความยาวต่ำสุดหรือสูงสุด ประเภทของโปรแกรมแก้ไขข้อความที่จะใช้ (พื้นที่ข้อความ, โปรแกรมแก้ไข Rich-Text หรือโปรแกรมแก้ไขมาร์คดาวน์) หรือหากข้อมูลจำเป็นต้องปรากฏในรูปแบบเฉพาะบางอย่างหรือไม่ เช่น อีเมล์แอดเดรสหรือรหัสไปรษณีย์ที่ถูกต้อง สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับฟิลด์ข้อมูลที่ใช้ได้และตัวเลือกต่างๆ โปรดดู ฟิลด์ข้อมูล

   เมื่อคุณเพิ่มฟิลด์ข้อความขนาดใหญ่ และตั้งค่าลักษณะของโปรแกรมแก้ไข Rich-Text หรือโปรแกรมแก้ไขมาร์คดาวน์ คุณสามารถเลือกประเภทของแถบเครื่องมือได้ดังนี้: มาตรฐาน, พื้นฐาน หรือกำหนดเอง สำหรับโปรแกรมแก้ไขมาร์คดาวน์ที่กำหนดเอง คุณจะต้องเลือกปุ่มที่จะรวมในแถบเครื่องมือ สำหรับโปรแกรมแก้ไข Rich-Text โปรดดู ปรับแต่งแถบเครื่องมือโปรแกรมแก้ไข Rich-Text

9. คุณสามารถจัดกลุ่มฟิลด์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้ให้ข้อมูลใช้งานฟอร์มรายการเนื้อหาได้ง่ายขึ้น
   • ในการสร้างกลุ่ม คลิก เพิ่มกลุ่ม จากนั้น ตั้งชื่อกลุ่ม ลากฟิลด์ข้อมูลไปยังกลุ่มตามต้องการ
   • เลือกว่าคุณต้องการให้ยุบกลุ่มตามค่าดีฟอลต์เมื่อมีการดูในโปรแกรมแก้ไขรายการเนื้อหาหรือไม่
   • ในการแก้ไขชื่อกลุ่ม ให้คลิก
   • ในการลบกลุ่ม ให้คลิก เลือกว่าคุณต้องการย้ายฟิลด์ข้อมูลออกพร้อมกลุ่ม หรือคุณต้องการย้ายฟิลด์ข้อมูลไปยังกลุ่มอื่น
10. บนเพจ URL แบบง่าย สำหรับประเภทเนื้อหา คุณสามารถระบุ URL แบบอ่านได้สำหรับรายการเนื้อหาที่สร้างขึ้นโดยใช้ประเภทเนื้อหานี้
11. ในเพจ เลย์เอาต์ของเนื้อหา ของประเภทเนื้อหา เลือกเลย์เอาต์ โปรแกรมแก้ไข และรูปแบบการแสดงตัวอย่างที่คุณต้องการให้มีสำหรับประเภทเนื้อหานี้ เมื่อมีการสร้างรายการเนื้อหาโดยใช้ประเภทเนื้อหานี้ บุคคลที่สร้างรายการจะสามารถดูตัวอย่างลักษณะที่ปรากฏของรายการเนื้อหาได้โดยใช้เลย์เอาต์ดังกล่าวเหล่านี้
    • เลย์เอาต์ตัวสร้างไซต์: เลือกเลย์เอาต์เดสก์ท็อปและอุปกรณ์เคลื่อนที่สำหรับแต่ละสไตล์เลย์เอาต์ที่ใช้ในตัวสร้างไซต์ หากจะมีการใช้รายการเนื้อหาที่สร้างโดยใช้ประเภทนี้บนเว็บไซต์ ควรสร้างและอัปโหลดเลย์เอาต์ของเนื้อหาก่อน แล้วจึงสร้างประเภทเนื้อหา
    • เลย์เอาต์ที่กำหนดเอง: เพิ่มสไตล์ของเลย์เอาต์ที่กำหนดเองที่สามารถเผยแพร่ผ่าน API และเลือกที่จะเผยแพร่การแสดง HTML สำหรับข้อมูลดิจิตัล โปรดดู จัดการองค์ประกอบและเลย์เอาต์ที่กำหนดเอง
      1. คลิก เพิ่มสไตล์เลย์เอาต์
      2. ป้อนชื่อสไตล์
      3. ระบบจะสร้างชื่อ API โดยอัตโนมัติ แต่คุณสามารถแก้ไขได้ตามต้องการ ชื่อ API ต้องไม่ซ้ำกัน
      4. เลือกเลย์เอาต์เดสก์ท็อปและอุปกรณ์เคลื่อนที่
      5. ถ้าคุณต้องการเผยแพร่การแสดงข้อมูล HTML ของเนื้อหาในเลย์เอาต์นี้อีกครั้งเมื่อเผยแพร่ข้อมูลดิจิตัล เลือก เผยแพร่ HTML เมื่อเผยแพร่ข้อมูล ระบบจะสร้างการแสดงข้อมูล HTML ของข้อมูลโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ผู้ดูแลระบบพื้นที่เก็บข้อมูลยังสามารถ เผยแพร่การแสดงข้อมูล HTML อีกครั้ง ด้วยตนเองสำหรับข้อมูลที่เผยแพร่ทั้งหมดของประเภทข้อมูลนี้
    • เลย์เอาต์โปรแกรมแก้ไขรายการเนื้อหา: เลือกเลย์เอาต์ที่ต้องการใช้สำหรับโปรแกรมแก้ไขรายการเนื้อหา
    • เลย์เอาต์การแสดงตัวอย่างไซต์: หากคุณต้องการให้ผู้สร้างรายการเนื้อหาสามารถดูลักษณะการแสดงผลบนเพจของไซต์โดยเฉพาะ ให้เลือกไซต์และเพจที่สร้างโดย Oracle Content Management หรือป้อน URL ของไซต์และเพจภายนอก URL ภายนอกอาจประกอบด้วยตัวจองพื้นที่สำหรับ ID, ประเภท, ภาษา และ Slug ตัวอย่างเช่น http://www.example.com/mypage/{id}/{type}/{language}/{slug} หรือ http://www.example.com/mypage?id={id}&lang={language}&type={type}&slug=(slug)
12. ในเพจ วิวแบบไทล์ สำหรับประเภทเนื้อหา คุณสามารถระบุวิวแบบไทล์ที่กำหนดเองได้ วิวแบบไทล์ที่กำหนดเองช่วยให้คุณสามารถคอนฟิเกอร์การแสดงผลฟิลด์ข้อมูลของรายการเนื้อหาบนเพจข้อมูลได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทเนื้อหา เลือกตัวเลือกภายใต้พื้นที่ แสดงผล ของเพจวิวแบบไทล์ และคอนฟิเกอร์ฟิลด์ต่างๆ ของประเภทเนื้อหาที่จะแสดงผลเป็นข้อมูลสื่อ ชื่อ หรือข้อความในวิวแบบไทล์ ในตัวเลือกที่ใช้ได้ ฟิลด์ข้อมูลสื่อจะปรากฏเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีเทา ฟิลด์ข้อมูลชื่อจะปรากฏเป็นแถบสีเทา และฟิลด์ข้อมูลข้อความจะปรากฏเป้นแถวสีเทาที่มีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย

ในการดู คุณสมบัติของประเภทเนื้อหา ให้คลิก

คุณต้องเชื่อมโยงประเภทเนื้อหากับพื้นที่เก็บข้อมูลอย่างน้อยหนึ่งรายการ และมอบบทบาทผู้ให้ข้อมูลเป็นอย่างน้อยให้กับผู้ใช้ในพื้นที่เก็บข้อมูล เพื่อให้สามารถใช้ประเภทเนื้อหาเพื่อสร้างรายการเนื้อหาได้