ตั้งค่าขนาดบัฟเฟอร์เพื่อออปติไมซ์รายงาน

คุณสามารถเปลี่ยนขนาดบัฟเฟอร์การเรียกข้อมูลและบัฟเฟอร์การจัดเรียงการเรียกข้อมูลใน Essbase เพื่อออปติไมซ์รายงานของตัวเขียนรายงาน และการสืบค้นโปรแกรมออกแบบการสืบค้นของ Smart View

เวลาที่จำเป็นในการสร้างรายงานอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของลูกบาศก์ที่คุณกำลังรายงาน, จำนวนการสืบค้นที่อยู่ในสคริปต์ และขนาดของบัฟเฟอร์การเรียกข้อมูลและบัฟเฟอร์การจัดเรียงการเรียกข้อมูล

ตัวแปรที่คอนฟิเกอร์ได้จะระบุขนาดของบัฟเฟอร์ ที่ใช้สำหรับการจัดเก็บและการจัดเรียงข้อมูลที่ดึงมาโดยการเรียกข้อมูล ขนาดบัฟเฟอร์การเรียกข้อมูลและบัฟเฟอร์การจัดเรียงการเรียกข้อมูลต้องใหญ่เพียงพอ เพื่อป้องกันการอ่านและการเขียนที่ไม่จำเป็น คุณสามารถตั้งค่าต่างๆ เหล่านี้ได้ใน เว็บอินเตอร์เฟซ Essbase หรือใน MaxL

บัฟเฟอร์การเรียกข้อมูล จะเก็บเซลล์ข้อมูลแถวที่ดึงข้อมูลไว้ ก่อนที่จะได้รับการประมวลผลตามคำสั่ง RESTRICT หรือ TOP/BOTTOM ของตัวเขียนรายงาน ขนาดดีฟอลต์คือ 20 KB ขนาดต่ำสุดคือ 2 KB การเพิ่มขนาดอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเรียกข้อมูล

เมื่อบัฟเฟอร์การเรียกข้อมูลเป็นแบบเต็มจำนวน ระบบจะประมวลผลแถวต่างๆ และนำบัฟเฟอร์การเรียกข้อมูลกลับมาใช้ใหม่ หากบัฟเฟอร์นี้น้อยเกินไป การนำพื้นที่กลับมาใช้ใหม่บ่อยๆ จะสามารถเพิ่มเวลาในการเรียกข้อมูลได้ หากบัฟเฟอร์นี้ใหญ่เกินไป ระบบอาจใช้หน่วยความจำที่มากเกินไป เมื่อผู้ใช้หลายรายดำเนินการสืบค้นพร้อมกัน ซึ่งก็เป็นการเพิ่มเวลาในการเรียกช้อมูลด้วยเช่นกัน

บัฟเฟอร์การจัดเรียงการเรียกข้อมูล จะเก็บข้อมูลไว้จนกว่าจะมีการจัดเรียง ตัวเขียนรายงานและโปรแกรมออกแบบการสืบค้น (ใน Smart View) ใช้บัฟเฟอร์การจัดเรียงการเรียกข้อมูล ขนาดดีฟอลต์คือ 20 KB ขนาดต่ำสุดคือ 2 KB การเพิ่มขนาดอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเรียกข้อมูล

ในการตั้งค่าขนาดบัฟเฟอร์การเรียกข้อมูลและขนาดบัฟเฟอร์การจัดเรียงการเรียกข้อมูล ให้ทำดังนี้

  1. นาวิเกตไปที่ บัฟเฟอร์
    ในอินเตอร์เฟซ Redwood:
    1. ในเพจแอปพลิเคชัน ให้เปิดแอปพลิเคชันแล้วเปิดฐานข้อมูล (ลูกบาศก์)
    2. คลิก การปรับแต่ง คลิก การตั้งค่า และคลิก บัฟเฟอร์

    ในเว็บอินเตอร์เฟซแบบคลาสสิก:

    ในเพจแอปพลิเคชัน ให้ไปที่เครื่องมือตรวจสอบลูกบาศก์ จากนั้นไปที่แท็บ การตั้งค่า และเลือก บัฟเฟอร์

  2. เพิ่มค่าที่คุณต้องการใช้ แล้วคลิก บันทึก