สร้างไดเมนชันและโหลดข้อมูลโดยใช้ไฟล์กฎ

คุณสามารถสร้างไดเมนชันและโหลดข้อมูลจากข้อความหรือแฟลตไฟล์อื่นๆ โดยใช้กฎ

ก่อนที่คุณจะเริ่มต้น คุณต้องมีทรัพยากรต่อไปนี้

  • เข้าใช้อินสแตนซ์ Essbase

  • หากคุณไม่ได้ใช้แฟลตไฟล์เป็นที่มาของข้อมูล คุณจะต้องมีการเชื่อมต่อและที่มาข้อมูลที่ได้รับการตั้งค่าไว้ใน Essbase ที่ระดับแอปพลิเคชัน

  • ไฟล์เมตะดาต้าของไดเมนชัน (ไฟล์แบบฝึกหัดตัวอย่าง: dim-market.txt) ดาวน์โหลดในคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว

  • ไฟล์ข้อมูล (ไฟล์แบบฝึกหัดตัวอย่าง: data-basic.txt) ดาวน์โหลดในคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว

เมื่อใช้ทรัพยากรที่ปรากฏ คุณสามารถดำเนินการสร้างไดเมนชันและโหลดข้อมูลโดยใช้กฎ

สร้างไดเมนชันโดยใช้ไฟล์กฎ

คุณสามารถแก้ไขและแมปไดเมนชันกับเอาต์ไลน์ของ Essbase โดยใช้กฎ แทนที่จะสร้างไดเมนชันว่างด้วยตนเองในโปรแกรมแก้ไขเอาต์ไลน์ของ Essbase ในส่วนนี้ เราจะอธิบายและแสดงการสร้างไดเมนชันจากแฟลตไฟล์โดยใช้กฎ

เมื่อคุณสร้างไดเมนชันโดยใช้กฎ คุณจะกำหนดโครงสร้างแบบลำดับชั้นของไดเมนชันและเมตะดาต้าที่เป็นสมาชิก คุณสามารถสร้างไดเมนชันอย่างน้อยหนึ่งรายการโดยใช้ไฟล์กฎเดียว หรือใช้หนึ่งไฟล์กฎต่อหนึ่งไดเมนชันก็ได้

คุณสามารถสร้างไดเมนชันเพื่อเพิ่มหรือแก้ไขไดเมนชัน แต่คุณไม่สามารถใช้การสร้างไดเมนชันเพื่อลบไดเมนชันที่มีอยู่

ในส่วนนี้ เราจะแสดงตัวอย่างการสร้างไดเมนชันจากแฟลตไฟล์โดยใช้กฎ คำอธิบายกระบวนการโหลดข้อมูลโดยใช้ SQL หรือการสตรีมจะอยู่ในหัวข้ออื่น

  1. เปิดไฟล์เมตะดาต้าของไดเมนชันที่ดาวน์โหลด dim-market.txt ในโปรแกรมแก้ไขข้อความที่จัดรูปแบบ จะเห็นว่าไฟล์ไม่มีแถวส่วนหัวและตัวคั่นไฟล์เป็นเครื่องหมายคอมมา
  2. เข้าสู่ระบบเว็บอินเตอร์เฟซ Essbase
  3. ในโฮมเพจ ให้ขยายแอปพลิเคชัน ตัวอย่าง และเลือกลูกบาศก์ พื้นฐาน
  4. คุณจะสร้างไฟล์กฎในขั้นตอนนี้
    1. จากเมนู การดำเนินการ ทางด้านขวาของลูกบาศก์ ให้เปิดเครื่องมือตรวจสอบ
    2. คลิก สคริปต์ แล้วคลิก กฎ โปรแกรมแก้ไขกฎจะปรากฏขึ้นมา โดยแสดงกฎที่กำหนดไว้ในปัจจุบัน
    3. คลิก สร้าง และเลือก รุ่นไดเมนชัน (ตามการจัดดัชนี) เพื่อกำหนดกฎการสร้างไดเมนชัน กฎการสร้างไดเมนชันตามดัชนีจะลบการอ้างอิงฟิลด์ระหว่างกันและอนุญาตให้ฟิลด์ปรากฏในลำดับใดๆ
    4. ในไดอะล็อกบ็อกซ์กฎใหม่ ป้อน Dim_market1 เป็นชื่อของไฟล์กฎ
    5. ในส่วนแสดงตัวอย่างข้อมูล ให้เลือก ไฟล์ สำหรับตัวเลือกอินพุตของแฟลตไฟล์
    6. คลิกไอคอนเบราส์และค้นหาไฟล์ dim-market.txt ที่คุณดาวน์โหลดไว้ และคลิก เปิด เพื่อเลือกไฟล์นั้น
    7. ตามที่คุณเห็นก่อนหน้านี้ แถวแรกของแฟลตไฟล์จะไม่มีค่าของส่วนหัว ยกเลิกการเลือกช่องทำเครื่องหมาย แถวส่วนหัว หากเลือกไว้
    8. ระบุค่า ตัวคั่น เป็นเครื่องหมายคอมมาตามรูปแบบไฟล์
    9. คลิก ดำเนินการต่อ
      ในขั้นตอนนี้คุณสามารถดูตัวอย่างโครงสร้างไดเมนชันในโปรแกรมแก้ไขกฎ โดยคอลัมน์จะแสดงตามแฟลตไฟล์อินพุต
    แถบเครื่องมือบนขวาในโปรแกรมแก้ไขกฎจะแสดงตัวเลือกร่วมของกฎ คุณสามารถเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติหรือที่มาข้อมูลได้ที่นี่และดูผลลัพธ์ แถบเครื่องมือด้านซ้ายของโปรแกรมแก้ไขกฏจะแสดงตัวเลือกของฟิลด์ของกฎ
  5. ที่เพจโปรแกรมแก้ไขกฎ คุณสามารถตั้งค่าและแก้ไขกฎได้ในขั้นตอนนี้
    1. ในเพจแสดงตัวอย่างสำหรับกฎใหม่ คลิก ไดเมนชัน ในฟิลด์แรก (คอลัมน์) และเลือก ตลาด เป็นชื่อไดเมนชัน ในขั้นตอนนี้ได้มีการระบุไดเมนชันตลาดให้ทุกฟิลด์แล้ว
    2. ภายใต้ตลาด คลิก ประเภท ในฟิลด์แรก และเลือกประเภทไดเมนชัน รายการระดับบน
      ไฟล์ที่มาสำหรับกฎนี้อยู่ในรูปแบบรายการหลัก-รายการย่อย ถ้าคุณมีไฟล์ที่มาตามรุ่น คุณสามารถตั้งค่าฟิลด์แรกเป็นรุ่น ในกรณีดังกล่าว เลขที่รุ่นจะถูกตั้งค่าเป็น 2 โดยรุ่น 1 จะเป็นไดเมนชันตามค่าดีฟอลด์
    3. ตั้งค่าฟิลด์อื่น ดังนี้
      ตั้งค่าประเภทฟิลด์ 2 เป็น รายการย่อย
      ตั้งค่าประเภทฟิลด์ 3 เป็น คุณสมบัติ และช่องรายการหลัก/รายการย่อยของแถวที่ 3 เป็น รายการย่อย
      สำหรับฟิลด์ 4 และ 5 ตั้งค่าประเภทเป็น UDA และช่องรายการหลัก/รายการย่อยของแถวที่ 3 เป็น รายการย่อย
      สำหรับฟิลด์ 6-9 ตั้งค่าประเภทเป็น ชื่อแทน ช่องชื่อแทนของแถวที่ 3 เป็น ChineseNames, JapaneseNames, RussianNames และ GermanNames ตามลำดับ และช่องของแถวที่ 4 เป็น รายการระดับล่าง
      ตั้งค่าประเภทฟิลด์ 10 เป็น สมาชิกแอททริบิว ช่องของแถวที่ 3 เป็น ประชากร และช่องของแถวที่ 4 เป็น รายการระดับล่าง
      ฟิลด์ไดเมนชันส่วนใหญ่จะตั้งค่าเป็นรุ่น รายการระดับบน หรือรายการระดับล่าง ถ้าชื่อไดเมนชันที่คุณต้องการไม่ได้อยู่ในเมนู ให้คลิก ไดเมนชัน (ในแถบเครื่องมือร่วม) เพิ่มชื่อไดเมนชันและคลิก เพิ่ม และ ตกลง
    4. ในขั้นตอนนี้ให้ตรวจสอบคุณสมบัติฟิลด์ของฟิลด์ใดฟิลด์หนึ่ง เลือกคอลัมน์ฟิลด์ล่าสุด ประชากร ในแถบเครื่องมือตัวเลือกของฟิลด์ เปิดแท็บ คุณสมบัติ และตรวจสอบว่าตัวเลือก ตัวพิมพ์ ตั้งค่าเป็น ไม่มีการดำเนินการ > ซึ่งหมายความว่าที่นี่ข้อความตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็กจะไม่ได้รับการจัดการแตกต่างจากในไฟล์ข้อความที่มา
    5. ในแถบเครื่องมือร่วม คลิกแท็บ ที่มา ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนไฟล์ที่มาข้อมูล ในแท็บคุณสมบัติไฟล์ ตรวจสอบว่าตั้งค่าตัวคั่นเป็น คอมม่า
    6. เมื่อคุณกำหนดกฎเสร็จแล้ว คลิก ตรวจสอบ ในแถบเครื่องมือร่วม เพื่อตรวจสอบรูปแบบคำสั่งของกฎ
    7. คลิก บันทึกและปิด
    8. คลิก รีเฟรช จะเห็นว่ากฎที่คุณสร้างตอนนี้แสดงอยู่ในช่องกฎของแท็บสคริปต์ คุณสามารถแก้ไขกฎได้โดยคลิกชื่อกฎ แล้วคลิก ดำเนินการต่อ
      จากเมนู การดำเนินการ สำหรับกฎที่แสดง คุณสามารถเลือกคัดลอก เปลี่ยนชื่อ คัดลอกหรือเอ็กซ์ปอร์ตรุ่น (ในไฟล์ json ที่จะใช้เพื่อแก้ไขปัญหา) คลิก ปิด เพื่อกลับไปที่โฮมเพจ
  6. ต่อไป คุณสามารถสร้างและรันงานเพื่อสร้างไดเมนชันโดยใช้กฎ
    1. ที่โฮมเพจ เลือก งาน แล้วเลือก งานใหม่
    2. เลือก สร้างไดเมนชัน
    3. ในไดอะล็อกบ็อกซ์ สร้างไดเมนชัน จากลิสต์ แอปพลิเคชัน ให้เลือกแอปพลิเคชัน ตัวอย่าง
    4. ในลิสต์ ฐานข้อมูล เลือกลูกบาศก์ พื้นฐาน การดำเนินการนี้อาจใช้เวลาสักครู่ในการโหลด
    5. ในลิสต์ สคริปต์ เลือกกฎการสร้างไดเมนชันที่คุณสร้างขึ้นมา Dim_market1.rul
    6. สำหรับ ประเภทการโหลด ให้เลือก ไฟล์
    7. ในลิสต์ ไฟล์ข้อมูล ให้เลือก Dim_Market เป็นไฟล์ข้อมูลไดเมนชัน ไฟล์นี้จะอยู่ในโฟลเดอร์ตัวอย่าง, พื้นฐาน
    8. จากลิสต์ ตัวเลือกปรับโครงสร้าง ให้เลือกตัวเลือก คงข้อมูลอินพุต สำหรับข้อมูลที่คุณต้องการคงไว้

      ในการตัดการเชื่อมต่อผู้ใช้อื่น ซึ่งเชื่อมต่ออยู่กับลูกบาศก์ตัวอย่าง, พื้นฐาน เพื่อให้คุณสามารถสร้างไดเมนชันได้ทันที คุณควรเลือก บังคับสร้างไดเมนชัน

      สำหรับข้อมูลระดับต่ำสุด ระบบจะคงไว้เฉพาะค่าระดับ 0 เท่านั้น ใช้ตัวเลือกนี้หากข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการคำนวณอยู่ในสมาชิกระดับ 0 สำหรับข้อมูลอินพุต ระบบจะคงไว้เฉพาะบล็อคที่มีข้อมูลที่กำลังโหลด ตัวเลือกนี้จะไม่ใช้กับฐานข้อมูลของพื้นที่เก็บข้อมูลการสรุปรวม

    9. คลิก ตกลง ระบบจะรันงานการสร้างไดเมนชัน
    10. ในเพจ งาน ให้คลิก รีเฟรช เพื่อตรวจสอบสถานะของงาน
    11. เมื่องานเสร็จสมบูรณ์ คลิกเมนู การดำเนินการ สำหรับงานที่รัน และเลือก รายละเอียดงาน เพื่อตรวจสอบสถานะงานการสร้างของคุณ
    12. ที่โฮมเพจแอปพลิเคชัน ทางขวาของลูกบาศก์พื้นฐานในแอปพลิเคชันตัวอย่าง เปิด การดำเนินการ และ เอาต์ไลน์ เพื่อตรวจสอบลำดับชั้นของไดเมนชัน ใน การดำเนินการ, ฐานข้อมูล, ตรวจสอบ คุณสามารถดูชื่อรุ่นที่สร้างได้ในแท็บไดเมนชัน เมื่อเสร็จสมบูรณ์ ให้ออกจากวิว
    ตอนนี้คุณสร้างไดเมนชันโดยใช้กฎเสร็จสมบูรณ์แล้ว

โหลดข้อมูลโดยใช้ไฟล์กฎ

คุณสามารถใช้กฎเพื่อดึงข้อมูล แปลงรูปแบบ และโหลดค่าข้อมูลไปยังลูกบาศก์ Essbase ค่าของข้อมูลที่มาอาจมีข้อมูลต่อไปนี้

  • ค่าข้อมูล

  • ชื่อสมาชิก ชื่อแทน และสูตร

  • ชื่อรุ่นและระดับ

  • คุณสมบัติของพื้นที่เก็บข้อมูล

  • แอททริบิวและแอททริบิวที่ผู้ใช้กำหนด

เมื่อคุณสร้างลูกบาศก์ Essbase ระบบจะสร้างไฟล์ข้อมูลและไฟล์กฎของการโหลดข้อมูลในไดเรคทอรีของลูกบาศก์ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ข้อมูลและกฎจากเวอร์ชันภายในองค์กรที่รองรับของ Essbase

ระบบรองรับทั้งรูปแบบข้อมูลเปลี่ยนจุดอ้างอิงและรูปแบบข้อมูลแฟลตไฟล์ของชุดแถว

เมื่อคุณโหลดข้อมูล ระบบจะรองรับการดำเนินการ SUM, MIN, MAX, AVG และ COUNT ในคอลัมน์ข้อมูลระหว่างแถวต่างๆ การดำเนินการนี้จะรองรับกรณีการใช้งานข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งมีการสร้างลูกบาศก์ Essbase ด้วยสมาชิกระดับที่สูงกว่า คุณสามารถดริลล์ผ่านได้จาก Essbase เพื่อดูข้อมูลที่ระดับที่มีความละเอียดยิ่งขึ้น

ที่ส่วนนี้ เราจะแสดงตัวอย่างการโหลดข้อมูลจากแฟลตไฟล์โดยใช้กฎ คำอธิบายกระบวนการโหลดข้อมูลโดยใช้ SQL หรือการสตรีมจะอยู่ในหัวข้ออื่น

  1. เปิดไฟล์ข้อมูลที่ดาวน์โหลด data-basic.txt ในโปรแกรมแก้ไขข้อความที่จัดรูปแบบ จะเห็นว่าไม่มีแถวส่วนหัวและตัวคั่นไฟล์เป็นเครื่องหมายคอมมา
  2. เข้าสู่ระบบเว็บอินเตอร์เฟซ Essbase
  3. ในโฮมเพจ ให้ขยายแอปพลิเคชัน ตัวอย่าง และเลือกลูกบาศก์ พื้นฐาน
  4. สร้างกฎการโหลดในขั้นตอนนี้
    1. จากเมนู การดำเนินการ ทางด้านขวาของลูกบาศก์พื้นฐาน ให้เปิดเครื่องมือตรวจสอบ
    2. เลือกแท็บ สคริปต์ แล้วเลือก กฎ โปรแกรมแก้ไขกฎจะปรากฏขึ้นมา โดยแสดงกฎที่กำหนดไว้ในปัจจุบัน
    3. คลิก สร้าง และเลือก การโหลดข้อมูล เพื่อกำหนดกฎการโหลดข้อมูล
    4. ในไดอะล็อกบ็อกซ์ กฎใหม่ ให้ป้อน Data_basic1 เป็นชื่อของกฎ
    5. ป้อน การวัด เป็นไดเมนชันข้อมูล
    6. ในส่วนแสดงตัวอย่างข้อมูล ให้เลือก ไฟล์ สำหรับอินพุตของแฟลตไฟล์
    7. คลิกไอคอนเบราส์เพื่อค้นหาไฟล์ data-basic.txt ที่คุณดาวน์โหลดไว้ และคลิก เปิด เพื่อเลือกไฟล์นั้น
    8. ตามที่คุณเห็นก่อนหน้านี้ แถวแรกของแฟลตไฟล์จะไม่มีค่าของส่วนหัว ยกเลิกการเลือกช่องทำเครื่องหมาย แถวส่วนหัว หากเลือกไว้ ถ้ามีแถวส่วนหัว ระบบจะแมปคอลัมน์โดยอัตโนมัติ
    9. เลือก คอมม่า เป็นค่า ตัวคั่น ตามรูปแบบไฟล์
    10. คลิก ดำเนินการต่อ
      ในขั้นตอนนี้คุณสามารถดูตัวอย่างข้อมูลในโปรแกรมแก้ไขกฎ ตามแฟลตไฟล์อินพุต
    แถบเครื่องมือตัวเลือกร่วมซึ่งอยู่ทางบนขวาของโปรแกรมแก้ไขกฎจะช่วยให้คุณสามารถแก้ไขคุณสมบัติของไฟล์หรือที่มาข้อมูล และดูผลลัพธ์ในโปรแกรมแก้ไขกฎได้ แถบเครื่องมือตัวเลือกของฟิลด์ซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายของโปรแกรมแก้ไขกฎจะช่วยให้คุณสามารถแมปฟิลด์ต่างๆ ในกฎได้
    เนื่องจากไม่มีส่วนหัวในไฟล์อินพุต คุณต้องแมปแต่ละคอลัมน์กับไดเมนชันและสมาชิกที่เหมาะสม
  5. ในโปรแกรมแก้ไขกฎ คุณสามารถตั้งค่าฟิลด์กฎได้ในขั้นตอนนี้
    1. คลิกเมนูดรอปดาวน์ สร้าง และเริ่มตั้งค่าชื่อฟิลด์
      ตั้งค่าฟิลด์ (คอลัมน์) 1 เป็น Product
      ตั้งค่าฟิลด์ 2 เป็น Market.
      ตั้งค่าฟิลด์ 3 เป็น Year
      ตั้งค่าฟิลด์ 4 เป็น Scenario
      ตั้งค่าฟิลด์ 5 เป็น Sales
      ตั้งค่าฟิลด์ 6 เป็น COGS
      ตั้งค่าฟิลด์ 7 เป็น Marketing
      ตั้งค่าฟิลด์ 8 เป็น Payroll
      ตั้งค่าฟิลด์ 9 เป็น Misc
      ตั้งค่าฟิลด์ 10 เป็น Opening Inventory
      ตั้งค่าฟิลด์ 11 เป็น Additions
      ต้องมีทุกไดเมนชันแสดงในกฎการโหลดข้อมูลก่อนจึงจะสามารถโหลดข้อมูลได้
    2. เมื่อคุณกำหนดกฎเสร็จแล้ว เมื่อใช้ตัวเลือกร่วมและตัวเลือกของฟิลด์ ให้คลิก ตรวจสอบ ในแถบเครื่องมือร่วม เพื่อตรวจสอบรูปแบบคำสั่ง และคลิก ปิด
    3. เมื่อตรวจสอบรูปแบบคำสั่งแล้ว ให้คลิก บันทึกและปิด
    4. คลิก รีเฟรช จะเห็นว่ากฎที่คุณสร้างตอนนี้แสดงอยู่ในช่องกฎของแท็บสคริปต์ คุณสามารถแก้ไขกฎได้โดยคลิกชื่อกฎ แล้วคลิก ดำเนินการต่อ
    5. คลิก ปิด เพื่อกลับไปที่โฮมเพจของแอปพลิเคชัน
    ถัดไป ให้สร้างงานเพื่อโหลดข้อมูลโดยใช้กฎ
  6. ที่โฮมเพจ เลือก งาน แล้วเลือก งานใหม่
    1. เลือก โหลดข้อมูล
    2. ในไดอะล็อกบ็อกซ์ โหลดข้อมูล จากเมนู แอปพลิเคชัน ให้เลือกแอปพลิเคชัน ตัวอย่าง
    3. ในลิสต์ ฐานข้อมูล เลือกลูกบาศก์ พื้นฐาน
    4. ในลิสต์ สคริปต์ ให้เลือกกฎการโหลดข้อมูลที่คุณสร้าง Data_market1.rul
    5. สำหรับ ประเภทการโหลด ให้เลือก ไฟล์
    6. เลือกไฟล์ Data_Basic1 จากลิสต์ ไฟล์ข้อมูล ไฟล์นี้จะอยู่ในโฟลเดอร์ตัวอย่าง > พื้นฐาน
    7. เลือกระบุได้: เลือกช่องทำเครื่องหมาย ล้มเลิกเมื่อเกิดข้อผิดพลาด หากคุณต้องการหยุดการโหลดข้อมูลในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาด
    8. คลิก ตกลง ระบบจะรันงานการโหลดข้อมูล
    9. ในเพจงาน ให้คลิก รีเฟรช เพื่อตรวจสอบสถานะของงาน
  7. หลังจากที่งานเสร็จสมบูรณ์แล้ว ให้ตรวจสอบว่าได้ประมวลผลและโหลดเรคคอร์ดอินพุตแล้ว
    1. ที่โฮมเพจแอปพลิเคชัน คลิก การดำเนินการ ทางขวาของลูกบาศก์พื้นฐานในแอปพลิเคชันตัวอย่าง
    2. เลือก รายละเอียดงาน เพื่อตรวจสอบรายละเอียดงานการโหลดข้อมูล
    3. คลิก ปิด เมื่อดำเนินการเสร็จ
    4. ที่โฮมเพจแอปพลิเคชันอีกครั้ง ให้เปิดเครื่องมือตรวจสอบ การดำเนินการ สำหรับลูกบาศก์ตัวอย่าง
    5. เลือก สถิติ เพื่อดูสถิติผลลัพธ์สำหรับลูกบาศก์พื้นฐาน
    ตอนนี้คุณโหลดข้อมูลโดยใช้กฎเสร็จสมบูรณ์แล้ว