5 จัดการการเชื่อมต่อฐานข้อมูลสำหรับการกำหนดโมเดลข้อมูล

ผู้ดูแลระบบจะสร้างและจัดการการเชื่อมต่อฐานข้อมูลระบบคลาวด์ สำหรับการกำหนดโมเดลข้อมูลชิงสัมพันธ์และที่ไม่ใช่เชิงสัมพันธ์ เช่น ข้อมูล Essbase, Snowflake หรือ Oracle Enterprise Performance Management (Oracle EPM) ข้อมูลธุรกิจของคุณไม่จำเป็นต้องอยู่ในที่เดียว เชื่อมต่อกับหลายฐานข้อมูลระบบคลาวด์ เพื่อให้ผู้กำหนดโมเดลธุรกิจและนักวิเคราะห์สามารถวิเคราะห์ข้อมูลบริษัทได้ ไม่ว่าจะถูกจัดเก็บไว้ที่ใด

กำหนดโมเดลข้อมูลในลูกบาศก์ Essbase

เชื่อมต่อกับฐานข้อมูล Essbase เพื่อให้คุณสามารถกำหนดโมเดลและแสดงข้อมูลจากลูกบาศก์ Essbase ได้

คุณสามารถกำหนดโมเดลข้อมูล Essbase ได้ใน Model Administration Tool เท่านั้น
ก่อนที่คุณจะเริ่ม ให้ใช้งานเกตเวย์ข้อมูลกับอินสแตนซ์ Oracle Analytics ของคุณและคอนฟิเกอร์เอเจนต์เกตเวย์ข้อมูลเพื่อติดต่อกับการใช้งาน Essbase ระยะไกล
  1. ในเลเยอร์แบบฟิสิคัล ให้สร้างฐานข้อมูล:
    1. คลิกขวาที่ช่องเลเยอร์แบบฟิสิคัลและเลือก สร้างฐานข้อมูลใหม่
    2. ที่ไดอะล็อก ฐานข้อมูล ให้ระบุชื่อเพื่อกำหนดฐานข้อมูลของคุณภายใน Oracle Analytics
    3. เลือก ประเภทฐานข้อมูล (ตัวอย่างเช่น Essbase 11) แล้วคลิก ตกลง
  2. ในเลเยอร์แบบฟิสิคัล ให้สร้างพูลการเชื่อมต่อ:
    1. คลิกขวาที่ฐานข้อมูลใหม่ คลิก สร้างออบเจกต์ใหม่ แล้วเลือก พูลการเชื่อมต่อฐานข้อมูล
    2. ที่ไดอะล็อกพูลการเชื่อมต่อ ให้ระบุชื่อเพื่อกำหนดพูลฐานข้อมูลภายใน Oracle Analytics
    3. ใน เซิร์ฟเวอร์ Essbase ให้ระบุสตริงการเชื่อมต่อสำหรับเซิร์ฟเวอร์ Essbase ของคุณ
      ตัวอย่างเช่น http://<IP address>:<port number>/essbase/agent
    4. เลือก ใช้เกตเวย์ข้อมูล
    5. ป้อน ชื่อผู้ใช้ และ รหัสผ่าน สำหรับการใช้งาน Essbase
    6. หากระบบแสดงพรอมต์ ให้ป้อนรหัสผ่านสำหรับการใช้งาน Essbase อีกครั้ง
  3. ในเลเยอร์แบบฟิสิคัล ให้อิมปอร์ตเมตะดาต้าของ Essbase:
    1. คลิกขวาที่การเชื่อมต่อ Essbase และเลือก อิมปอร์ตเมตะดาต้า
    2. ที่เพจ เลือกที่มาข้อมูล คลิก ถัดไป
    3. ที่เพจ เลือกออบเจกต์เมตะดาต้า ให้ขยายฐานข้อมูลในช่อง ที่มาข้อมูล เลือกลูกบาศก์ที่คุณต้องการ แล้วคลิก อิมปอร์ตรายการที่เลือก

      สำหรับลูกบาศก์ขนาดใหญ่ การอิมปอร์ตอาจใช้เวลาสองถึงสามนาที

    4. เมื่อการอิมปอร์ตเสร็จสมบูรณ์ ให้ขยายฐานข้อมูลใน วิวพื้นที่เก็บข้อมูล เพื่อแสดงลูกบาศก์ Essbase ที่อิมปอร์ต
    5. คลิก เสร็จสิ้น
  4. ใช้เลเยอร์แบบฟิสิคัลที่คุณเพิ่งสร้างในการสร้างโมเดลธุรกิจของคุณและเลเยอร์การแมป แล้วตามด้วยเลเยอร์การนำเสนอของคุณ
  5. คลิก ไฟล์ แล้วคลิก คลาวด์ จากนั้นคลิก เผยแพร่
  6. สร้างแดชบอร์ดหรือเวิร์กบุคการแสดงข้อมูลตามลูกบาศก์ Essbase ของคุณ
    ลูกบาศก์ Essbase ใหม่สามารถใช้งานเป็นหัวเรื่องใน Oracle Analytics ได้แล้ว
    ตัวอย่างเช่น ใน Oracle Analytics ให้สร้างการวิเคราะห์ และในไดอะล็อก เลือกหัวเรื่อง คุณจะสามารถเข้าใช้หัวเรื่อง Essbase ใหม่ได้ ใน Oracle Analytics ให้สร้างเวิร์กบุคในไดอะล็อก เพิ่มชุดข้อมูล คลิก หัวเรื่อง เพื่อเข้าใช้หัวเรื่อง Essbase ใหม่

กำหนดโมเดลข้อมูลใน Snowflake Data Warehouse

คอนฟิเกอร์สภาพแวดล้อมภายในองค์กรของคุณ เพื่อให้คุณสามารถกำหนดโมเดลข้อมูลในฐานข้อมูลสโนว์เฟลค

คุณสามารถกำหนดโมเดลข้อมูล Snowflake ได้ใน Semantic Modeler หรือ Model Administration Tool เท่านั้น งานนี้จะอธิบายกระบวนการที่ใช้ Model Administration Tool
การเชื่อมต่อกับสโนว์เฟลคจากโมเดลรูปแบบภาษาทั้งแบบในระบบและระยะไกล ต้องมีการติดตั้งเกตเวย์ข้อมูลเพื่อให้ Model Administration Tool อิมปอร์ตและกำหนดโมเดลตารางจากที่มาข้อมูลสโนว์เฟลค คอนฟิเกอร์เอเจนต์เกตเวย์ข้อมูลนี้ด้วยไดรเวอร์ที่เหมาะสมเพื่อเชื่อมต่อกับ Snowflake ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อเกตเวย์ข้อมูลระยะไกลพร้อมใช้งานเมื่อรันการสืบค้น อย่างไรก็ตาม เมื่อตาราง Snowflake ได้รับการกำหนดโมเดลและมีการเผยแพร่โมเดลรูปแบบภาษาไปยัง Oracle Analytics สำหรับการเชื่อมต่อภายใน จะสามารถเลิกใช้หรือลบเกตเวย์ข้อมูลออกได้ เนื่องจากไม่ได้ใช้เมื่อรันการสืบค้นจาก Oracle Analytics

คุณสามารถสร้างการเชื่อมต่อในระบบหรือระยะไกลไปยังสโนว์เฟลคจากโมเดลรูปแบบภาษา เมื่อสร้างการเชื่อมต่อในระบบ (ไม่ใช่ระยะไกล) พูลการเชื่อมต่อในโมเดลรูปแบบภาษาจะใช้การเชื่อมต่อ JDBC

ก่อนที่คุณจะเริ่ม ให้ติดตั้งเกตเวย์ข้อมูลและ Model Administration Tool ในคอมพิวเตอร์ Windows เครื่องเดียวกันในสภาพแวดล้อมภายในองค์กรของคุณ
  1. คอนฟิเกอร์เอเจนต์เกตเวย์ข้อมูลเพื่อจัดการให้มีการเชื่อมต่อจาก Developer Client Tool ไปยัง Snowflake
    1. ดาวน์โหลด Snowflake JDBC ล่าสุด (ตัวอย่างเช่น ในไฟล์ snowflake-jdbc-3.9.0.jar)
    2. คัดลอกไฟล์ JAR ที่ดาวน์โหลดมาไปยังโฟลเดอร์การติดตั้งเกตเวย์ข้อมูล
      ในการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ ให้คัดลอกไฟล์ JAR ไปที่:
      <Data Gateway folder>/domain/jettybase/lib/ext
      ในการใช้งานส่วนุคคล ให้คัดลอกไฟล์ JAR ไปที่:
      <install directory>\war\datagateway\WEB-INF\lib
    3. รีสตาร์ทเกตเวย์ข้อมูล
  2. คอนฟิเกอร์การเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล Snowflake ของคุณ
คุณสามารถกำหนดโมเดลข้อมูลโดยใช้การเชื่อมต่อนี้

สร้างการเชื่อมต่อโมเดลรูปแบบภาษาในระบบกับ Snowflake

เชื่อมต่อกับฐานข้อมูล Snowflake ในระบบเพื่อให้คุณสามารถกำหนดโมเดลข้อมูล Snowflake ได้

  1. ใน Model Administration Tool ให้ใช้งานฟังก์ชันพูลการเชื่อมต่อ JDBC ด้วยการโหลดที่มาข้อมูลจาวา ดูขั้นตอนที่ 3 ใน คอนฟิเกอร์และรีจิสเตอร์เกตเวย์ข้อมูลสำหรับการรายงาน
  2. ใน Model Administration Tool ให้สร้างฐานข้อมูลและตั้งประเภทเป็น Snowflake
  3. เพิ่มพูลการเชื่อมต่อและระบุรายละเอียดเหล่านี้ในแท็บ ทั่วไป
    • อินเตอร์เฟซการเรียก: JDBC(Direct Driver)
    • ต้องระบุชื่อตารางแบบเต็ม: ใช่
    • ชื่อที่มาข้อมูล: ป้อนสตริงการเชื่อมต่อ ตัวอย่างเช่น: jdbc:snowflake://xxxx.snowflakecomputing.com?db=ODEV&warehouse=xxxxxx&schema=xxxxxx
    • เวอร์ชัน RDC: เว้นฟิลด์นี้ว่างไว้
  4. บนแท็บ เบ็ดเตล็ด ให้ระบุรายละเอียดเหล่านี้
    • URL เซิร์ฟเวอร์ JDS: เว้นฟิลด์นี้ว่างไว้ (ย้ายรายการใดๆ ในฟิลด์นี้ออก)
    • คลาสไดรเวอร์: net.snowflake.client.jdbc.SnowflakeDriver
    • ใช้ SQL ผ่าน HTTP: เท็จ
  5. กำหนดโมเดลข้อมูลของคุณโดยใช้การเชื่อมต่อนี้
  6. อัปโหลดหรือเผยแพร่โมเดลรูปแบบภาษาของคุณไปยัง Oracle Analytics Cloud เมื่อคุณได้กำหนดโมเดลเสร็จสมบูรณ์แล้ว
    Oracle Analytics Cloud จะเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล Snowflake โดยไม่ใช้เกตเวย์ข้อมูล
คุณสามารถกำหนดโมเดลข้อมูลโดยใช้การเชื่อมต่อนี้

สร้างการเชื่อมต่อโมเดลรูปแบบภาษาระยะไกลกับ Snowflake

เชื่อมต่อกับฐานข้อมูล Snowflake ในระบบเพื่อให้คุณสามารถกำหนดโมเดลข้อมูล Snowflake ได้

  1. ใน Model Administration Tool ให้ใช้งานฟังก์ชันพูลการเชื่อมต่อ JDBC ด้วยการโหลดที่มาข้อมูลจาวา ดูขั้นตอนที่ 3 ใน คอนฟิเกอร์และรีจิสเตอร์เกตเวย์ข้อมูลสำหรับการรายงาน
  2. ใน Model Administration Tool ให้สร้างฐานข้อมูลและตั้งประเภทเป็น Snowflake
  3. เพิ่มพูลการเชื่อมต่อและระบุรายละเอียดเหล่านี้ในแท็บ ทั่วไป
    • อินเตอร์เฟซการเรียก: JDBC(Direct Driver)
    • ต้องระบุชื่อตารางแบบเต็ม: ใช่
    • ชื่อที่มาข้อมูล: ป้อนสตริงการเชื่อมต่อ ตัวอย่างเช่น: jdbc:snowflake://xxxx.snowflakecomputing.com?db=ODEV&warehouse=xxxxxx&schema=xxxxxx
    • เวอร์ชัน RDC: ตั้งค่าเป็น 2
  4. บนแท็บ เบ็ดเตล็ด ให้ระบุรายละเอียดเหล่านี้
    • URL เซิร์ฟเวอร์ JDS: เว้นฟิลด์นี้ว่างไว้ (ย้ายรายการใดๆ ในฟิลด์นี้ออก)
    • คลาสไดรเวอร์: net.snowflake.client.jdbc.SnowflakeDriver
    • ใช้ SQL ผ่าน HTTP: จริง
  5. กำหนดโมเดลข้อมูลของคุณโดยใช้การเชื่อมต่อนี้
  6. อัปโหลดหรือเผยแพร่โมเดลรูปแบบภาษาของคุณไปยัง Oracle Analytics Cloud เมื่อคุณได้กำหนดโมเดลเสร็จสมบูรณ์แล้ว
    หมายเหตุ: Oracle Analytics Cloud จะเชื่อมต่อกับ Snowflake โดยใช้เอเจนต์เกตเวย์ข้อมูลที่คอนฟิเกอร์ไว้
  7. คัดลอกไฟล์ไดรเวอร์ Snowflake ไปยังโฟลเดอร์การติดตั้งเอเจนต์เกตเวย์ข้อมูลแต่ละโฟลเดอร์
    • ในการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ ให้คัดลอกไฟล์ JAR ไปยัง: <Data Gateway install_location>/domain/jettybase/thirdpartyDrivers
    • สำหรับการใช้งานส่วนบุคคลใน Windows ให้คัดลอกไฟล์ JAR ไปยัง: <Data Gateway_extract_path>\thirdpartyDrivers
    • สำหรับการใช้งานส่วนบุคคลใน MacOS ให้คัดลอกไฟล์ JAR ไปยัง :<Application->Show Package Contents>Resources->app.nw->lib
  8. รีสตาร์ทเกตเวย์ข้อมูล โปรดดู จัดการเกตเวย์ข้อมูล

กำหนดโมเดลข้อมูลใน Google BigQuery

เชื่อมต่อกับฐานข้อมูล Google BigQuery เพื่อให้คุณสามารถกำหนดโมเดลและแสดงข้อมูลจาก Google BigQuery คุณสามารถกำหนดโมเดลข้อมูล Google BigQuery ได้ใน Semantic Modeler หรือ Model Administration Tool เท่านั้น งานเหล่านี้จะอธิบายกระบวนการที่ใช้ Model Administration Tool

หัวข้อ

สร้างการเชื่อมต่อ Oracle Analytics กับ Google BigQuery

คุณสามารถสร้างการเชื่อมต่อระบบกับฐานข้อมูล Google BigQuery และใช้การเชื่อมต่อเพื่อกำหนดโมเดลโปรเจค Google BigQuery

ก่อนที่คุณจะเริ่ม ให้ดาวน์โหลดไพรเวทคีย์ของแอคเคาท์เซอร์วิส (ในรูปแบบ JSON) สำหรับบริการ Google BigQuery ของคุณ
  1. ใน โฮมเพจ ของ Oracle Analytics ให้คลิก สร้าง แล้วคลิก การเชื่อมต่อ
  2. คลิก BigQuery
  3. ป้อนรายละเอียดการเชื่อมต่อ
    • ใน ชื่อการเชื่อมต่อ ให้ระบุชื่อที่จดจำง่ายเพื่อระบุรายละเอียดการเชื่อมต่อใน Oracle Analytics
    • ใน โปรเจค ให้ระบุชื่อโปรเจค BigQuery ที่คุณต้องการวิเคราะห์ในรูปแบบอักษรตัวพิมพ์เล็ก
    • ใน ไพรเวทคีย์ของแอคเคาท์เซอร์วิส ให้คลิก เลือก และอัปโหลดไพรเวทคีย์ของแอคเคาท์เซอร์วิส (รูปแบบ JSON) สำหรับบริการ BigQuery ของคุณ อีเมล์แอคเคาท์ของเซอร์วิส จะป็อปปูเลทจากรายละเอียดคีย์ที่อัปโหลด
    • ใน การเชื่อมต่อระบบ ให้เลือกตัวเลือกนี้

  4. บันทึกรายละเอียด

ดาวน์โหลดและตั้งค่าไดรเวอร์ ODBC ของ BigQuery

ติดตั้งไดรเวอร์ ODBC ที่จำเป็นสำหรับการเชื่อมต่อกับ Google BigQuery และคอนฟิเกอร์ไดรเวอร์ใน Model Administration Tool เพื่อให้คุณสามารถกำหนดโมเดลโปรเจคได้

  1. ดาวน์โหลดไดรเวอร์ ODBC ของ Simba BigQuery จาก Google
    ตัวอย่างเช่น ดาวน์โหลดจาก ไซต์อ้างอิงของ Google
  2. ติดตั้งไดรเวอร์ที่ดาวน์โหลดบนเครื่องที่มีการติดตั้ง Oracle Analytics Client Tools
  3. คอนฟิเกอร์ไดรเวอร์ ODBC โดยใช้ไดอะล็อกการตั้งค่า DSN

  4. คลิก ทดสอบ เพื่อทดสอบการเชื่อมต่อ

  5. บันทึกรายละเอียด

สร้างโมเดลข้อมูลจากที่มาข้อมูล Google BigQuery

คุณสร้างโมเดลข้อมูลสำหรับฐานข้อมูล Google BigQuery ของคุณ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานการแสดงข้อมูลในโปรเจค BigQuery ได้

หากต้องการสร้างโมเดลข้อมูล คุณต้องมีสิทธิ์ในคีย์ BigQuery หากคีย์ BigQuery ให้สิทธิ์เข้าใช้ระดับชุดข้อมูล เพียงดำเนินการอิมปอร์ตเมตะดาต้าโดยใช้ไดรเวอร์ ODBC ของ BigQuery โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ หากคีย์ BigQuery ให้สิทธิ์เข้าใช้ตารางหรือวิวที่ระบุเท่านั้น ให้ทำตามขั้นตอนทางด้านล่างเพื่อสร้างสคีมาแบบฟิสิคัล
  1. ใน Model Administration Tool ให้สร้างฐานข้อมูลในพื้นที่เก็บข้อมูล และตั้งค่า ประเภทฐานข้อมูล เป็น ODBC ขั้นต้น

  2. ในไดอะล็อกพูลการเชื่อมต่อ ให้สร้างพูลการเชื่อมต่อในฐานข้อมูล
    • ใน อินเตอร์เฟซการเรียก ให้เลือก "ดีฟอลต์ (ODBC 2.0)"
    • ในฟิลด์ ชื่อที่มาข้อมูล ให้เลือกไดรเวอร์ ODBC ของ BigQuery ที่คุณสร้างไว้ก่อนหน้านี้

  3. สร้างสคีมาแบบฟิสิคัลในฐานข้อมูลโดยใช้ชื่อเดียวกันกับชุดข้อมูล BigQuery
    BigQuery SQL กำหนดให้ชื่อชุดข้อมูลต้องนำหน้าชื่อตาราง เช่น dataset.table ชื่อชุดข้อมูลเทียบเท่ากับออบเจกต์สคีมาแบบฟิสิคัลในไฟล์พื้นที่เก็บข้อมูล
  4. คลิกขวาที่พูลการเชื่อมต่อ และเลือก อิมปอร์ตเมตะดาต้า
  5. บนไดอะล็อก 'เลือกที่มาข้อมูล' ให้เลือก ODBC 2.0 หรือ ODBC 3.5 อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นประเภทการเชื่อมต่อ และเลือกไดรเวอร์ ODBC ของ BigQuery

  6. บนไดอะล็อก 'เลือกประเภทเมตะดาต้า' ให้เลือก วิว และประเภทอื่นๆ ที่คุณต้องการใช้ ซึ่งคีย์ BigQuery ของคุณมีสิทธิ์

  7. บนไดอะล็อก 'เลือกประเภทเมตะดาต้า' ให้เลือกแต่ละตาราง แล้วคลิก อิมปอร์ตรายการที่เลือก ตัวเลือกนี้จะอิมปอร์ตฐานข้อมูล BigQuery และโครงสร้างที่ใช้งานอยู่

    หากคุณคลิก อิมปอร์ตทั้งหมด คุณจะอิมปอร์ตเฉพาะฐานข้อมูลเท่านั้น หากเกิดเหตุการณ์นี้ ให้เลือก อิมปอร์ตทั้งหมด ในครั้งที่สองเพื่ออิมปอร์ตตาราง
  8. คลิก เสร็จสิ้น
  9. ลากตารางที่อิมปอร์ตลงในสคีมาแบบฟิสิคัล
  10. แก้ไขฐานข้อมูลแบบฟิสิคัล และเปลี่ยนประเภทฐานข้อมูลเป็น BigQuery

    เมื่อเปลี่ยนฐานข้อมูลแบบฟิสิคัล คุณจะเห็นข้อความที่ระบุว่าประเภทฐานข้อมูลไม่ตรงกับอินเตอร์เฟซการเรียกที่ตั้งค่าไว้ในพูลการเชื่อมต่อ คลิก ใช่

  11. ในไดอะล็อกพูลการเชื่อมต่อ ให้คอนฟิเกอร์การตั้งค่าต่อไปนี้
    • ใน อินเตอร์เฟซการเรียก ให้เปลี่ยนอินเตอร์เฟซการเรียกเป็น JDBC (Direct Driver)
    • เลือก ต้องระบุชื่อตารางแบบเต็ม
    • เลือก ใช้การเชื่อมต่อข้อมูล
    • ใน Oracle Analytics ให้ตรวจสอบการเชื่อมต่อ BigQuery และคัดลอก ID ออบเจกต์ BigQuery ต้องตรงตามตัวพิมพ์เล็กและใหญ่ เพื่อให้แน่ใจว่ารูปแบบคำสั่งการเชื่อมต่อข้อมูลถูกต้อง ให้ใช้ปุ่ม คัดลอก

    • ในไดอะล็อกพูลการเชื่อมต่อ ให้วาง ID ออบเจกต์ที่คัดลอกลงในฟิลด์ ID ออบเจกต์
    • ตั้งค่า จำนวนการเชื่อมต่อสูงสุด ที่ 100
  12. บันทึกรายละเอียด
กำหนดโมเดลเมตะดาต้าในพื้นที่เก็บข้อมูล และอัปโหลดไฟล์พื้นที่เก็บข้อมูล (RPD) ไปยัง Oracle Analytics

แก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อพื้นที่เก็บข้อมูลสำหรับ Google BigQuery

ต่อไปนี้เป็นปัญหาบางส่วนที่คุณอาจพบเมื่อเชื่อมต่อกับ Google BigQuery และวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้น

หากไม่ได้เลือก 'ต้องระบุชื่อตารางแบบเต็ม' และสคีมาแบบฟิสิคัลไม่ได้เป็นส่วนของ SQL ที่สร้างขึ้น การสืบค้นจะทำงานล้มเหลวโดยมีข้อความคล้ายกับ 'ไม่สามารถอ่านข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ที่มาข้อมูลของจาวา'

หากการสืบค้นรันกับ BigQuery โดยใช้ nqcmd หรือเครื่องมือรายการ SQL อื่น ข้อความแสดงข้อผิดพลาดตามจริงจะปรากฏดังนี้

WITH SAWITH0 AS (select distinct T4.PROP_CD as c1 from FINOPS_RM_OCC_ACT T4) select 0 as c1, D1.c1 as c2 from SAWITH0 D1 order by c2
[Simba][BigQuery] (70) Invalid query: Table "FINOPS_RM_OCC_ACT" must be qualified with a dataset (e.g. dataset.table).
Statement preparation failed

วิธีการตรวจสอบคุณสมบัติการสืบค้นด้วยชุดข้อมูล คือ การใช้สคีมาแบบฟิสิคัลในไฟล์พื้นที่เก็บข้อมูล

หากการเชื่อมต่อ Oracle Analytics ใช้ชื่อโปรเจคแบบตัวพิมพ์ใหญ่ แสดงว่าระบบสร้างการเชื่อมต่อสำเร็จแล้ว

คุณอาจพบปัญหาที่ต่างกันสองประการ

1. การสืบค้นทำงานล้มเหลวโดยมีข้อความ '404 Not Found' เกี่ยวกับ URL ที่มาสก์ ดังนี้

[2022-03-17T01:13:44.105+00:00] [OBIS] [TRACE:2] [USER-34] [] [ecid: d6382db0-1e63-427e-893b-18bc00c0424e-0000de96,0:2:1:5] [sik: bootstrap] [tid: 856a6700] [messageId: USER-34] [requestid: 6358001e] [sessionid: 63580000] [username: Testuser] -------------------- Query Status: [nQSError: 46164] HTTP Server returned 404 (Not Found) for URL [masked_url]. [[
[nQSError: 46281] Failed to download metadata for dataset ‘system’.‘BigQuery Test’.
[nQSError: 43119] Query Failed:

2. ภายใน Oracle Analytics คุณจะเห็นชุดข้อมูล แต่ไม่มีตารางใช้งานอยู่
คำอธิบาย GUID-1C0811AA-3875-4A7C-A147-230688B98583-default.png มีดังนี้
.png

ทั้งสองกรณีนี้ คุณสามารถแก้ไขการเชื่อมต่อเพื่อให้ชื่อโปรเจคเป็นตัวอักษรพิมพ์เล็กได้

ขณะที่แก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อ BigQuery ใน Oracle Analytics Cloud ให้ลองใช้ไคลเอนต์ JDBC ของผู้ผลิตรายอื่นในการเชื่อมต่อกับ BigQuery โดยใช้คีย์แอคเคาท์เซอร์วิสเดียวกัน

หากการเชื่อมต่อยังคงล้มเหลว แสดงว่าเกิดปัญหาขึ้นกับคีย์แอคเคาท์เซอร์วิส

หากการเชื่อมต่อสำเร็จ แสดงว่าเกิดปัญหาขึ้นกับ Oracle Analytics และคุณต้องติดต่อฝ่ายบริการด้านเทคนิคของ Oracle

การทดสอบนี้มีประโยชน์ในกรณีที่คีย์แอคเคาท์เซอร์วิสไม่ได้รับการตรวจสอบผ่านทาง ODBC

รูปแบบ DSN สำหรับการระบุที่มาข้อมูล

ใน Oracle Analytics คุณสามารถกำหนดโมเดลข้อมูลภายในองค์กรสำหรับฐานข้อมูลหลายประเภท Oracle Analytics รองรับการเข้าถึงที่มาข้อมูลภายในองค์กรบางรายการโดยตรงผ่านโมเดลรูปแบบภาษา เมื่อคุณสร้างการเชื่อมต่อฐานข้อมูลโดยใช้ Model Administration Tool ในฟิลด์ ชื่อที่มาข้อมูล ในไดอะล็อก พูลการเชื่อมต่อ (แท็บทั่วไป) ที่คุณใช้รูปแบบ DSN ที่เหมาะสมสำหรับประเภทฐานข้อมูลที่คุณกำลังเชื่อมต่อ

Amazon Redshift:
       DRIVER=Oracle 7.1 Amazon Redshift Wire Protocol;HOST=["host-name"];PORT=["port"];DB=["service-name"]
      SSL: DRIVER=Oracle 7.1 Amazon Redshift Wire Protocol;HOST=["host-name"];PORT=["port"];DB=["service-name"];EM=6;CPV=TLSv1.2,TLSv1.1,TLSv1, SSLv3, SSLv2;VSC=0
Apache Drill:
       DRIVER=MapR Drill ODBC Driver;Host=["host-name"];Port=["port"];CastAnyToVarchar=true;ExcludedSchemas=sys,INFORMATION_SCHEMA;AuthenticationType=Basic               Authentication;ConnectionType=Direct
Aster:
       DRIVER=Aster ODBC Driver;SERVER=["host-name"];PORT=["port"];DATABASE=["service-name"]
DB2:
      DRIVER=Oracle 7.1 DB2 Wire Protocol;IpAddress=["host-name"];PORT=["port"];DB=["service-name"]
      SSL:  DRIVER=Oracle 7.1 DB2 Wire Protocol;IpAddress=["host-name"];PORT=["port"];DB=["service-name"];EM=1;VSC=0
Greenplum:
       DRIVER=Oracle 7.1 Greenplum Wire Protocol;HOST=["host-name"];PORT=["port"];DB=["service-name"]
Hive:
       DRIVER=Oracle 8.0 Apache Hive Wire Protocol;HOST=["host-name"];PORT=["port"]
      SSL: DRIVER=Oracle 8.0 Apache Hive Wire Protocol;HOST=["host-name"];PORT=["port"];EM=1;VSC=0
Impala:
       DRIVER=Oracle 7.1 Impala Wire Protocol;HOST=["host-name"];PORT=["port"]
     SSL:  DRIVER=Oracle 7.1 Impala Wire Protocol;HOST=["host-name"];PORT=["port"];EM=1;VSC=0
Informix:
       DRIVER=Oracle 7.1 Informix Wire Protocol;HOSTNAME=["host-name"];PORTNUMBER=["port"];DATABASE=["service-name"]
MongoDB:
       DRIVER=Oracle 8.0 MongoDB;HOST=["host-name"];PORT=["port"];DB=["service-name"]
MySQL:
      DRIVER=Oracle 7.1 MySQL Wire Protocol;HOST=["host-name"];PORT=["port"];DB=["service-name"]
PostgresSql:
       DRIVER=Oracle 7.1 PostgreSQL Wire Protocol;HOST=["host-name"];PORT=["port"];DB=["service-name"]
Spark:
      DRIVER=Oracle 8.0 Apache Spark SQL;HOST=["host-name"];PORT=["port"]
      SSL:  DRIVER=Oracle 8.0 Apache Spark SQL;HOST=["host-name"];PORT=["port"];EM=1;VSC=0
SQL Server:
     DRIVER=Oracle 7.1 SQL Server Wire Protocol;HOST=["host-name"];PORT=["port"];DB=["service-name"]
     SSL:  DRIVER=Oracle 7.1 SQL Server Wire Protocol;HOST=["host-name"];PORT=["port"];DB=["service-name"];EM=1;VSC=0;CryptoProtocolVersion=TLSv1.2,TLSv1.1,TLSv1,SSLv3,SSLv2
Sybase:
       DRIVER=Oracle 7.1 Sybase Wire Protocol;NA=["host-name"], ["port"];DB=["service-name"]
Teradata:
       DRIVER=Oracle 7.1 Teradata;DBCName=["host-name"];port_name=["port"]