เพิ่มความสมบูรณ์และแปลงรูปแบบการอ้างอิง

ใช้ข้อมูลการอ้างอิงนี้เพื่อช่วยคุณเพิ่มความสมบูรณ์และแปลงรูปแบบข้อมูลของคุณ

แปลงรูปแบบการอ้างอิง

ค้นพบเกี่ยวกับตัวเลือกการแปลงรูปแบบข้อมูลที่คุณเข้าถึงได้ในโปรแกรมแก้ไขการแปลงรูปแบบ ตัวอย่างเช่น เพื่อจัดชนิดเวลาที่ใช้ในรอบการแข่งความเร็วในคอลัมน์ชุดข้อมูล คุณอาจใช้ตัวเลือก Bin

ในการเลือกตัวเลือกการแปลงรูปแบบในโปรแกรมแก้ไขการแปลงรูปแบบ ให้เปิดชุดข้อมูลของคุณ แล้วคลิก ตัวเลือก (จุดไข่ปลาด้านบนขวาของคอลัมน์ข้อมูล จุดไข่ปลา) และเลือกตัวเลือก (ตัวอย่างเช่น Bin, เปลี่ยนชื่อ หรือ แปลงเป็นข้อความ)


คำอธิบาย GUID-48DD220C-19D2-4614-9E6B-ABE498632724-default.png มีดังนี้
.png

ตัวเลือก คำอธิบาย
ช่วง สร้างกลุ่มแบบกำหนดเองของคุณเองสำหรับช่วงตัวเลข ตัวอย่างเช่น คุณสามารถสร้างช่วงสำหรับคอลัมน์ "อายุ" ที่แบ่งช่วงอายุเป็น วัยรุ่นตอนต้น วัยรุ่นตอนปลาย ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ ตามข้อกำหนดที่ระบุเอง
คำนวณระยะเวลา คำนวณระยะเวลาระหว่างวันที่หรือเวลาสองวัน ตัวอย่างเช่น ในการวิเคราะห์เวลาจัดส่งตามคำสั่งซื้อ คุณอาจคำนวณจำนวนวันระหว่างวันที่ ORDER_DATE ถึง DELIVERY_DATE
แปลงเป็นวันที่ เปลี่ยนประเภทข้อมูลของคอลัมน์เป็นวันที่ และลบค่าที่ไม่ใช่วันที่ออกจากคอลัมน์นี้
แปลงเป็นตัวเลข เปลี่ยนประเภทข้อมูลของคอลัมน์เป็นตัวเลข ซึ่งจะลบค่าที่ไม่ใช่ตัวเลขออกจากคอลัมน์นี้
แปลงเป็นข้อความ เปลี่ยนประเภทข้อมูลของคอลัมน์เป็นข้อความ
สร้าง สร้างคอลัมน์ตามฟังก์ชัน
สร้างสำเนา สร้างคอลัมน์ที่มีเนื้อหาเหมือนกับคอลัมน์ที่เลือกไว้
แก้ไข เปลี่ยนรายละเอียดคอลัมน์ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเปลี่ยนชื่อ เลือกคอลัมน์อื่น หรืออัปเดตฟังก์ชันต่างๆ
ดึงข้อมูลวันที่ ดึงข้อมูลช่วงวันที่และเวลาจากเวลาระบบ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถดึงข้อมูลปี เช่น 2024, วันของเดือน เช่น 23 หรือชั่วโมงของวัน เช่น 03 PM
กลุ่ม, กลุ่มที่มีเงื่อนไข เลือก กลุ่ม เพื่อสร้างกลุ่มแบบกำหนดเองของคุณเอง ตัวอย่างเช่น คุณสามารถจัดกลุ่ม "รัฐ" ไว้กับพื้นที่ที่กำหนดเอง และจัดประเภทจำนวนเงินดอลลาร์เป็นกลุ่มโดยระบุเป็นน้อย ปานกลาง และมาก
ซ่อน ซ่อนคอลัมน์ใน ช่องข้อมูล และในการแสดงข้อมูล หากคุณต้องการดูคอลัมน์ที่ซ่อนไว้ ให้คลิก คอลัมน์ที่ซ่อน (ไอคอนรูปผี) ที่ส่วนท้ายของเพจ จากนั้นคุณสามารถยกเลิกการซ่อนทีละคอลัมน์ หรือยกเลิกการซ่อนคอลัมน์ที่ซ่อนอยู่ทั้งหมดพร้อมกัน
ล็อก คำนวณลอการิทึมธรรมชาติของเอ็กซ์เพรสชัน
ตัวพิมพ์เล็ก อัปเดตเนื้อหาของคอลัมน์ด้วยค่าที่เป็นตัวอักษรพิมพ์เล็กทั้งหมด
ยกกำลัง ยกกำลังค่าของคอลัมน์ตามค่าที่คุณระบุ ค่าดีฟอลต์คือ 2
เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนชื่อของคอลัมน์
แทนที่ เปลี่ยนข้อความเฉพาะในคอลัมน์ที่เลือกเป็นค่าที่คุณระบุ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเปลี่ยนอินสแตนซ์ทั้งหมดของ Mister เป็น Mr.
ขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ อัปเดตเนื้อหาของคอลัมน์เพื่อให้ตัวอักษรแรกของคำแรกในประโยคเป็นตัวพิมพ์ใหญ่
แยก แยกค่าคอลัมน์ออกเป็นส่วน ตัวอย่างเช่น คุณสามารถแยกคอลัมน์ "ชื่อ" เป็นชื่อกับนามสกุล
รากที่สอง สร้างคอลัมน์ที่ป็อปปูเลทด้วยรากที่สองของค่าในคอลัมน์ที่เลือก
ตัวพิมพ์ใหญ่ อัปเดตเนื้อหาของคอลัมน์ด้วยค่าที่เป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด

โปรไฟล์ข้อมูลและคำแนะนำด้านรูปแบบภาษา

เมื่อคุณสร้างชุดข้อมูล Oracle Analytics จะสร้างโปรไฟล์ระดับคอลัมน์ เพื่อสร้างชุดคำแนะนำเกี่ยวกับรูปแบบภาษาในการซ่อมแซมหรือเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับข้อมูลของคุณ เมื่อคุณสร้างเวิร์กบุค คุณสามารถรวมการการเพิ่มความสมบูรณ์ของความรู้ลงในการแสดงข้อมูลของคุณได้เช่นกัน โดยการเพิ่มจากแผงข้อมูล

คำแนะนำเหล่านี้จะอ้างอิงการตรวจพบประเภทรูปแบบภาษาโดยอัตโนมัติของระบบในขั้นตอนกำหนดโปรไฟล์ ตัวอย่างเช่น ชุดข้อมูลที่อิงตามหัวเรื่องในระบบจะได้รับการสร้างโปรไฟล์โดยใช้ตัวอย่าง N สูงสุดแบบง่าย

ประเภทรูปแบบภาษามีหลายชนิด เช่น ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ระบุตามชื่อเมือง, รูปแบบที่รับรู้ได้ที่ปรากฏในบัตรเครดิต อีเมล์แอดเดรส และเลขที่ประกันสังคม, วันที่ และรูปแบบการเกิดซ้ำ และคุณยังสร้างประเภทรูปแบบภาษาที่กำหนดเองได้ด้วย

ชนิดประเภทรูปแบบภาษา

การสร้างโปรไฟล์ใช้กับประเภทรูปแบบภาษาต่างๆ

มีการสร้างโปรไฟล์ชนิดประเภทรูปแบบภาษาเพื่อระบุข้อมูลดังนี้

  • ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ เช่น ชื่อเมือง
  • รูปแบบต่างๆ เช่น รูปแบบที่พบในหมายเลขบัตรเครดิตหรืออีเมล์แอดเดรส
  • รูปแบบการเกิดซ้ำ เช่น ข้อมูลวลีที่มีเครื่องหมายขีดกลาง

คำแนะนำของประเภทรูปแบบภาษา

คำแนะนำในการซ่อม เพิ่มประสิทธิภาพ หรือเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับชุดข้อมูลจะกำหนดตามประเภทข้อมูล

ตัวอย่างของคำแนะนำประเภทของรูปแบบภาษามีดังต่อไปนี้

  • การเพิ่มความสมบูรณ์ - การเพิ่มคอลัมน์ใหม่ในข้อมูลของคุณซึ่งตรงกับประเภทข้อมูลที่ตรวจพบ เช่น ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ ตัวอย่างเช่น การเพิ่มข้อมูลประชากรสำหรับเมือง
  • การเชื่อมต่อคอลัมน์ - เมื่อตรวจพบสองคอลัมน์ในชุดข้อมูล คอลัมน์หนึ่งมีข้อมูลชื่อและอีกคอลัมน์หนึ่งมีข้อมูลนามสกุล ระบบจะแนะนำให้เชื่อมต่อเป็นคอลัมน์เดียว ตัวอย่างเช่น คอลัมน์ first_name_last_name
  • การดึงข้อมูลรูปแบบภาษา - เมื่อประเภทรูปแบบภาษาประกอบด้วยประเภทย่อย เช่น หมายเลข us_phone ซึ่งมีรหัสทางไกล ระบบจะแนะนำให้ดึงข้อมูลประเภทย่อยลงในคอลัมน์ของตนเอง
  • การดึงข้อมูลของส่วน - เมื่อตรวจพบตัวคั่นของรูปแบบทั่วไปในข้อมูล ระบบจะแนะนำให้ดึงข้อมูลของส่วนจากรูปแบบนั้น ตัวอย่างเช่น ถ้าระบบตรวจพบเครื่องหมายขีดกลางที่ปรากฏซ้ำในข้อมูล ระบบจะแนะนำให้ดึงข้อมูลของส่วนนั้นเป็นคอลัมน์แยกต่างหาก เพื่อทำให้ข้อมูลมีประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์
  • การดึงข้อมูลวันที่ - เมื่อตรวจพบวันที่ ระบบจะแนะนำให้ดึงข้อมูลของส่วนวันที่ที่อาจเสริมการวิเคราะห์ข้อมูล ตัวอย่างเช่น คุณสามารถดึงข้อมูลวันของสัปดาห์จากวันที่ในใบแจ้งหนี้หรือวันที่จัดซื้อ
  • การเข้ารหัส/การปกปิด/การลบข้อมูลทั้งหมดหรือบางส่วน - เมื่อตรวจพบฟิลด์ที่มีความละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิต ระบบจะแนะนำให้ปกปิดคอลัมน์ทั้งหมดหรือบางส่วน หรือลบข้อมูลนั้นออก

ประเภทรูปแบบภาษาที่อ้างอิงรูปแบบที่รู้จัก

ประเภทรูปแบบภาษาถูกระบุตามรูปแบบที่พบในข้อมูลของคุณ

มีการให้คำแนะนำสำหรับรูปแบบภาษาเหล่านี้

  • วันที่ (ในรูปแบบมากกว่า 30 รูปแบบ)
  • เลขที่ประกันสังคม (SSN) ของสหรัฐอเมริกา
  • หมายเลขบัตรเครดิต
  • แอททริบิวของบัตรเครดิต (CVV และวันที่หมดอายุ)
  • อีเมล์แอดเดรส
  • หมายเลขโทรศัพท์ของอเมริกาเหนือ
  • ที่อยู่ของสหรัฐอเมริกา

ประเภทรูปแบบภาษาที่อ้างอิง

การรับรู้ประเภทรูปแบบภาษากำหนดโดยข้อมูลอ้างอิงที่โหลดจากบริการ

มีการให้คำแนะนำแบบอ้างอิงสำหรับรูปแบบภาษาแต่ละประเภทเหล่านี้

  • ชื่อประเทศ
  • รหัสประเทศ
  • ชื่อรัฐ (จังหวัด)
  • รหัสรัฐ
  • ชื่อประเทศ (เขตอำนาจศาล)
  • ชื่อเมือง (ชื่อที่โลคัลไลซ์)
  • รหัสไปรษณีย์

การเพิ่มความสมบูรณ์ที่แนะนำ

การเพิ่มความสมบูรณ์ที่แนะนำจะอิงตามประเภทของรูปแบบภาษา

การเพิ่มความสมบูรณ์จะกำหนดตามลำดับชั้นของที่ตั้งทางภูมิศาสตร์

  • ประเทศ
  • จังหวัด (รัฐ)
  • เขตอำนาจศาล (เขต)
  • ลองจิจูด
  • ละติจูด
  • ประชากร
  • ระดับความสูง (เป็นเมตร)
  • โซนเวลา
  • รหัส ISO ของประเทศ
  • Federal Information Processing Series (FIPS)
  • ชื่อประเทศ
  • เมืองหลวง
  • ทวีป
  • GeoNames ID
  • ภาษาที่ใช้
  • รหัสประเทศของโทรศัพท์
  • รูปแบบของรหัสไปรษณีย์
  • แบบแผนของรหัสไปรษณีย์
  • รหัสประเทศของโทรศัพท์
  • ชื่อสกุลเงิน
  • ตัวย่อของสกุลเงิน
  • โดเมนระดับบนสุดของภูมิศาสตร์ (GeoLTD)
  • ตารางกิโลเมตร

เกณฑ์ที่กำหนด

กระบวนการทำโปรไฟล์จะใช้เกณฑ์เฉพาะเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับประเภทรูปแบบภาษาบางอย่าง

โดยทั่วไปแล้ว 85% ของค่าข้อมูลในคอลัมน์ต้องตรงกับเกณฑ์สำหรับประเภทของรูปแบบภาษาเดี่ยวเพื่อให้ระบบกำหนดการจัดประเภทได้ ด้วยเหตุนี้ คอลัมน์ที่อาจมีชื่ออยู่ 70% และ “อื่นๆ” 30% จะไม่ตรงตามข้อกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำ และระบบจะไม่ให้คำแนะนำ

คำแนะนำความรู้ที่กำหนดเอง

ใช้คำแนะนำความรู้ที่กำหนดเองเพื่อเสริมความรู้ระบบของ Oracle Analytics ความรู้ที่กำหนดเองช่วยให้ตัวทำโปรไฟล์รูปแบบภาษาของ Oracle Analytics สามารถระบุประเภทรูปแบบภาษาแบบเจาะจงธุรกิจได้มากขึ้น และให้คำแนะนำการเพิ่มความสมบูรณ์ของข้อมูลที่เกี่ยวข้องและควบคุมได้ดีกว่าเดิม ตัวอย่างเช่น คุณอาจเพิ่มการอ้างอิงความรู้ที่กำหนดเองเพื่อจัดประเภทยาตามใบสั่งแพทย์เป็นยา USP ชนิด Analgesics หรือ Opioid

ไอคอนแนะนำการใช้งาน แนะนำการใช้งาน

คุณสามารถใช้ไฟล์รูปแบบภาษาที่มีอยู่ เช่น ไฟล์ Unsupervised Semantic Parsing (USP) หรือสร้างไฟล์รูปแบบภาษาของคุณเอง ขอให้ผู้ดูแลระบบอัปโหลดไฟล์ความรู้ที่กำหนดเองไปยัง Oracle Analytics เมื่อคุณเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับชุดข้อมูล Oracle Analytics จะเสนอคำแนะนำการเพิ่มความสมบูรณ์ตามข้อมูลรูปแบบภาษานี้ เมื่อคุณสร้างเวิร์กบุค คุณสามารถรวมการการเพิ่มความสมบูรณ์ของความรู้ลงในการแสดงข้อมูลของคุณได้เช่นกัน โดยการเพิ่มจากแผงข้อมูล

การสร้างไฟล์ความรู้ที่คุณกำหนดเอง

เมื่อคุณสร้างไฟล์รูปแบบภาษาของตัวเอง ให้ทำตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้

  • สร้างไฟล์ข้อมูลในรูปแบบ CSV หรือ Microsoft Excel (XLSX) ขนาดไฟล์สูงสุดที่คุณอัปโหลดได้คือ 250 MB
  • ป็อปปูเลทคอลัมน์แรกด้วยคีย์ ซึ่ง Oracle Analytics จะใช้เพื่อทำโปรไฟล์ข้อมูล
  • ป็อปปูเลทคอลัมน์อื่นๆ ด้วยค่าการเพิ่มความสมบูรณ์

ขอให้ผู้ดูแลระบบอัปโหลดไฟล์ความรู้ที่กำหนดเองไปยัง Oracle Analytics

สตริงรูปแบบที่กำหนดเองทั่วไป

คุณสามารถใช้สตริงรูปแบบที่กำหนดเองเพื่อสร้างรูปแบบเวลาหรือวันที่ที่กำหนดเอง

ตารางแสดงสตริงรูปแบบที่กำหนดเองทั่วไป รวมถึงผลลัพธ์ที่สตริงเหล่านั้นแสดง ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ฟิลด์วันที่และเวลาปรากฏขึ้นในโลแคลของผู้ใช้

สตริงรูปแบบทั่วไป ผลลัพธ์

[FMT:dateShort]

จัดรูปแบบวันที่ให้อยู่ในรูปแบบวันที่แบบสั้นของโลแคล นอกจากนี้ คุณสามารถพิมพ์ [FMT:date] ได้เช่นกัน

[FMT:dateLong]

จัดรูปแบบวันที่ให้อยู่ในรูปแบบวันที่แบบยาวของโลแคล

[FMT:dateInput]

จัดรูปแบบวันที่ให้อยู่ในรูปแบบที่ยอมรับได้สำหรับการอินพุตกลับไปที่ระบบ

[FMT:time]

จัดรูปแบบเวลาให้อยู่ในรูปแบบเวลาของโลแคล

[FMT:timeHourMin]

จัดรูปแบบเวลาให้อยู่ในรูปแบบเวลาของโลแคล แต่ไม่ระบุวินาที

[FMT:timeInput]

จัดรูปแบบเวลาให้อยู่ในรูปแบบที่ยอมรับได้สำหรับการอินพุตกลับไปที่ระบบ

[FMT:timeInputHourMin]

จัดรูปแบบเวลาให้อยู่ในรูปแบบที่ยอมรับได้สำหรับการอินพุตกลับไปที่ระบบ แต่ไม่ระบุวินาที

[FMT:timeStampShort]

เทียบเท่ากับการพิมพ์ [FMT:dateShort] [FMT:time] จัดรูปแบบวันที่ให้อยู่ในรูปแบบวันที่แบบสั้นของโลแคล และจัดรูปแบบเวลาให้อยู่ในรูปแบบเวลาของโลแคล นอกจากนี้ คุณสามารถพิมพ์ [FMT:timeStamp] ได้เช่นกัน

[FMT:timeStampLong]

เทียบเท่ากับการพิมพ์ [FMT:dateLong] [FMT:time] จัดรูปแบบวันที่ให้อยู่ในรูปแบบวันที่แบบยาวของโลแคล และจัดรูปแบบเวลาให้อยู่ในรูปแบบเวลาของโลแคล

[FMT:timeStampInput]

เทียบเท่ากับ [FMT:dateInput] [FMT:timeInput] จัดรูปแบบวันที่และเวลาให้อยู่ในรูปแบบที่ยอมรับได้สำหรับการอินพุตกลับไปที่ระบบ

[FMT:timeHour]

จัดรูปแบบฟิลด์ชั่วโมงให้อยู่ในรูปแบบของโลแคลเท่านั้น เช่น 8 PM

YY หรือ yy

แสดงตัวเลขสองหลักสุดท้ายของปี ตัวอย่างเช่น 11 สำหรับ 2011

YYY หรือ yyy

แสดงตัวเลขสามหลักสุดท้ายของปี ตัวอย่างเช่น 011 สำหรับ 2011

YYYY หรือ yyyy

แสดงตัวเลขปีสี่หลัก ตัวอย่างเช่น 2011

M

แสดงเดือนแบบตัวเลข เช่น 2 สำหรับเดือนกุมภาพันธ์

MM

แสดงเดือนแบบตัวเลข ที่เติมหลักด้านซ้ายด้วยเลขศูนย์สำหรับเดือนที่เป็นตัวเลขหนึ่งหลัก เช่น 02 สำหรับเดือนกุมภาพันธ์

MMM

แสดงชื่อย่อของเดือนในโลแคลของผู้ใช้ เช่น ก.พ.

MMMM

แสดงชื่อเต็มของเดือนในโลแคลของผู้ใช้ เช่น กุมภาพันธ์

D หรือ d

แสดงวันของเดือน เช่น 1

DD หรือ dd

แสดงวันของเดือน ที่เติมหลักด้านซ้ายด้วยเลขศูนย์สำหรับวันที่เป็นตัวเลขหนึ่งหลัก เช่น 01

DDD หรือ ddd

แสดงชื่อย่อของวันของสัปดาห์ในโลแคลของผู้ใช้ เช่น พฤ สำหรับวันพฤหัสบดี

DDDD หรือ dddd

แสดงชื่อเต็มของวันของสัปดาห์ในโลแคลของผู้ใช้ เช่น พฤหัสบดี

DDDDD หรือ ddddd

แสดงตัวอักษรตัวแรกของชื่อวันของสัปดาห์ในโลแคลของผู้ใช้ เช่น สำหรับวันพฤหัสบดี

r

แสดงวันของปี เช่น 1

rr

แสดงวันของปี ที่เติมหลักด้านซ้ายด้วยเลขศูนย์สำหรับวันของปีที่เป็นตัวเลขหนึ่งหลัก เช่น 01

rrr

แสดงวันของปี ที่เติมหลักด้านซ้ายด้วยเลขศูนย์สำหรับวันของปีที่เป็นตัวเลขหนึ่งหลัก เช่น 001

w

แสดงสัปดาห์ของปี เช่น 1

ww

แสดงสัปดาห์ของปี ที่เติมหลักด้านซ้ายด้วยเลขศูนย์สำหรับสัปดาห์ที่เป็นตัวเลขหนึ่งหลัก เช่น 01

q

แสดงไตรมาสของปี เช่น 4

h

แสดงเวลาชั่วโมงให้อยู่ในรูปแบบเวลา 12 ชั่วโมง เช่น 2

H

แสดงเวลาชั่วโมงให้อยู่ในรูปแบบเวลา 24 ชั่วโมง เช่น 23

hh

แสดงเวลาชั่วโมงให้อยู่ในรูปแบบเวลา 12 ชั่วโมง ที่เติมหลักด้านซ้ายด้วยเลขศูนย์สำหรับเวลาที่เป็นตัวเลขหนึ่งหลัก เช่น 01

HH

แสดงเวลาชั่วโมงให้อยู่ในรูปแบบเวลา 24 ชั่วโมง ที่เติมหลักด้านซ้ายด้วยเลขศูนย์สำหรับเวลาที่เป็นตัวเลขหนึ่งหลัก เช่น 23

m

แสดงนาที เช่น 7

mm

แสดงนาที ที่เติมหลักด้านซ้ายด้วยเลขศูนย์สำหรับนาทีที่เป็นตัวเลขหนึ่งหลัก เช่น 07

s

แสดงวินาที เช่น 2

นอกจากนี้ คุณยังสามารถใส่ทศนิยมในสตริงได้ เช่น s.# หรือ s.00 (โดยที่ # หมายถึงหลักที่เลือกระบุได้ และ 0 หมายถึงหลักที่จำเป็น)

ss

แสดงวินาที ที่เติมหลักด้านซ้ายด้วยเลขศูนย์สำหรับวินาทีที่เป็นตัวเลขหนึ่งหลัก เช่น 02

นอกจากนี้ คุณยังสามารถใส่ทศนิยมในสตริงได้ เช่น ss.# หรือ ss.00 (โดยที่ # หมายถึงหลักที่เลือกระบุได้ และ 0 หมายถึงหลักที่จำเป็น)

S

แสดงมิลลิวินาที เช่น 2

SS

แสดงมิลลิวินาที ที่เติมหลักด้านซ้ายด้วยเลขศูนย์สำหรับมิลลิวินาทีที่เป็นตัวเลขหนึ่งหลัก เช่น 02

SSS

แสดงมิลลิวินาที ที่เติมหลักด้านซ้ายด้วยเลขศูนย์สำหรับมิลลิวินาทีที่เป็นตัวเลขหนึ่งหลัก เช่น 002

tt

แสดงตัวย่อสำหรับ ante meridiem หรือ post meridiem ในโลแคลของผู้ใช้ เช่น pm

gg

แสดงยุคในโลแคลของผู้ใช้