ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างการจัดการเนื้อหา

ทุกหน่วยงานต่างสร้างข้อมูลจำนวนมากในแต่ละวัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการใช้ความพยายามซ้ำๆ การจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพหมายถึงการสามารถจัดเก็บ ทำงานร่วมกัน ค้นหา และเผยแพร่ข้อมูลของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ วิดีโอ หรือรายการเนื้อหาที่มีโครงสร้างของสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด มาดูคุณสมบัติ Oracle Content Management บางส่วนที่สามารถใช้จัดการและเผยแพร่ข้อมูลของคุณกันดีกว่า

โครงสร้างการจัดการเนื้อหาของ Oracle Content Management เริ่มต้นด้วยพื้นที่เก็บข้อมูล พื้นที่เก็บข้อมูลคือที่ตั้งของพื้นที่เก็บข้อมูลสำหรับข้อมูลที่คุณจำเป็นต้องใช้สำหรับการสร้างเว็บ มือถือ หรือประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้อื่นในหน่วยงานของคุณ ข้อมูลอาจเป็น รายการเนื้อหา ที่เป็นเนื้อหาแต่ละอย่าง เช่น โพสต์บล็อก กรณีศึกษา หรือข้อมูลผลิตภัณฑ์ หรือ ข้อมูลดิจิตัล ที่เป็นรูปภาพ วิดีโอ หรือสื่อประเภทอื่นที่คุณต้องการใช้ในการใช้งานของคุณ

มีพื้นที่เก็บข้อมูล 2 ประเภทคือ: พื้นที่เก็บข้อมูลธุรกิจและพื้นที่เก็บข้อมูล พื้นที่เก็บข้อมูลธุรกิจ จะจัดเก็บข้อมูล พื้นที่จัดเก็บข้อมูล จะจัดเก็บข้อมูล แต่ให้คุณสามารถเผยแพร่และโลคัลไลซ์ข้อมูลได้ ข้อมูลที่จัดเก็บในพื้นที่เก็บข้อมูลธุรกิจจะถูกเรียกเก็บเงินในอัตรา 1/100 ของข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในพื้นที่เก็บข้อมูล

ในฐานะผู้ดูแลระบบพื้นที่เก็บข้อมูล คุณเลือกประเภทข้อมูลสำหรับพื้นที่เก็บข้อมูลเพื่อกำหนดประเภทข้อมูลที่สามารถจัดเก็บไว้ในพื้นที่เก็บข้อมูล คุณระบุการจัดชนิดให้กับพื้นที่เก็บข้อมูลเพื่ออนุญาตให้มีการจัดชนิดข้อมูล สำหรับพื้นที่เก็บข้อมูล คุณกำหนดเป้าหมายช่องทางการเผยแพร่ไปยังพื้นที่เก็บข้อมูลเพื่อกำหนดกฎสำหรับการเผยแพร่ข้อมูล เช่น ไม่ว่าไซต์ภายในหรือแอปพลิเคชันภายนอกจะใช้ คุณจะคอนฟิเกอร์การตั้งค่าพื้นที่เก็บข้อมูลอื่นตามที่กำหนดไว้เพื่อรองรับกรณีการใช้งานที่คุณมี

คุณสามารถสร้างได้หลายพื้นที่เก็บข้อมูลเพื่อจัดการความต้องการของธุรกิจที่แตกต่างกันของคุณ ตัวอย่างเช่น:

  • คุณสามารถตั้งค่าพื้นที่เก็บข้อมูลได้รายการเดียวเพื่อรองรับการเผยแพร่เนื้อหาไปยังเว็บไซต์องค์กรของคุณ เชื่อมโยงข้อกำหนดการโลคัลไลซ์กับข้อกำหนดของช่องทางการเผยแพร่ที่ระบุของพื้นที่เก็บข้อมูลเพื่อกำหนดภาษาที่ต้องใช้ในการอนุญาตการส่งไซต์ร่วม ในการใช้งานการแปลเนื้อหาโดยผู้ให้บริการภาษาภายนอก ให้ระบุตัวเชื่อมต่อการแปลให้กับพื้นที่เก็บข้อมูล ก่อนเผยแพร่ข้อมูลไปยังไซต์องค์กรของคุณที่ต้องมีการตรวจสอบและอนุมัติโดยเจ้าของธุรกิจ ควรช่วยให้การดำเนินงานสะดวกโดยการระบุเวิร์กโฟลว์ที่เกี่ยวข้องให้กับพื้นที่เก็บข้อมูล
  • ตั้งค่าพื้นที่เก็บข้อมูลอื่นเพื่อรองรับการจัดการข้อมูลดิจิตัลสำหรับระบบอัตโนมัติสำหรับการตลาดของคุณ ระบุประเภทข้อมูลดิจิตัลที่มีแอททริบิวที่กำหนดเองที่กำหนดไว้เพื่อรองรับแคมเปญส่วนบุคคล ในการอนุญาตการจัดชนิดข้อมูลสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์หรือลูกค้าแต่ละราย ให้ระบุการจัดชนิดที่แสดงลำดับชั้นของผลิตภัณฑ์หรืออุตสาหกรรมตามที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ เพื่อช่วยให้ผู้ให้ข้อมูลจัดชนิดข้อมูลหรือค้นหาข้อมูลดิจิตัลที่เกี่ยวข้อง ให้ใช้งานคุณสมบัติ Smart Content ในพื้นที่เก็บข้อมูล
  • หน่วยงานของคุณอาจทำงานร่วมกับบริษัทตัวแทนการออกแบบภายนอกที่สร้างเนื้อหาสำหรับแคมเปญการตลาด คุณสามารถตั้งค่าพื้นที่เก็บข้อมูลสำหรับการทำงานร่วมกับบริษัทตัวแทน ระบุตัวเชื่อมต่อเนื้อหาสำหรับ Google Drive, OneDrive หรือผู้ให้บริการเนื้อหาบุคคลที่สามรายอื่น ซึ่งช่วยให้ผู้ออกแบบสามารถอัปโหลดข้อมูลดิจิตัลจากพื้นที่เก็บข้อมูลภายนอกเหล่านี้ได้

ใช้ Oracle Blogs เป็นตัวอย่างเพื่อแนะนำคุณตลอดการตั้งค่าพื้นที่เก็บข้อมูลเพื่ออนุญาตให้แสดงเนื้อหาไปยังไซต์ที่คล้ายกัน นี่คือกระบวนการที่คุณสามารถใช้เพื่อสร้างการอ้างอิงที่ระบุและตั้งค่าพื้นที่เก็บข้อมูลของคุณ

  • ประเภทข้อมูล

    อีลิเมนต์เนื้อหาหลักใน Oracle Blogs ได้แก่บทความบล็อก, การเขียนสั้นๆ เกี่ยวกับผู้เขียนบล็อก, รูปภาพ วิดีโอ และไฟล์ PDF ที่บางบทความอนุญาตให้คุณดาวน์โหลดได้ ใน Oracle Content Management เนื้อหานี้จะแสดงเป็นข้อมูลประเภทใดประเภทหนึ่งจาก 2 ประเภท

    • ประเภทเนื้อหา ที่กำหนดโครงสร้างข้อมูลซึ่งรายการเนื้อหาสามารถจัดเก็บได้ เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผู้เขียนบล็อก ให้กำหนดประเภทเนื้อหาของ ผู้เขียน ด้วยฟิลด์ข้อความ ชื่อ สำหรับชื่อของผู้เขียน, ฟิลด์ข้อความ ตำแหน่งงาน สำหรับตำแหน่งงาน, ฟิลด์สื่อ ภาพถ่าย สำหรับรูปภาพของผู้เขียน และฟิลด์ Rich-Text ประวัติผู้เขียน สำหรับประวัติย่อๆ สำหรับบทความบล็อก ให้กำหนดประเภทเนื้อหา บทความ ด้วยฟิลด์ข้อความ ชื่อ สำหรับชื่อบทความ, ฟิลด์ข้อความ สรุป สำหรับสรุปที่จะแสดงในลิสต์บทความบล็อกหรือเพจผลลัพธ์การค้นหา, ฟิลด์ Rich-Text เนื้อหา สำหรับบทความ, ฟิลด์สื่อ ภาพปกสำหรับรูปภาพที่แสดงในส่วนหัวบทความ และฟิลด์อ้างอิง ผู้เขียนบล็อก เพื่ออ้างอิงไปยังรายการเนื้อหาของผู้เขียนบล็อก
    • ประเภทข้อมูลดิจิตัล ซึ่งกำหนดประเภทสื่อไฟล์ที่ข้อมูลดิจิตัลสามารถจัดเก็บได้ และโครงสร้างแอททริบิว (เมตะดาต้า) เพื่ออธิบายข้อมูล ใช้รูปภาพ วิดีโอ และประเภทไฟล์ที่พร้อมใช้งานเพื่อจัดการรูปภาพ วิดีโอ และเอกสาร PDF สำหรับไซต์บล็อก หรือกำหนดประเภทข้อมูลดิจิตัลที่กำหนดเอง ตัวอย่างเช่น กำหนดประเภทข้อมูลดิจิตัล ภาพถ่ายผู้เขียน ด้วยแอททริบิวข้อความ การกำหนดแอททริบิว เพื่อจัดเก็บชื่อของผู้สร้างรูปภาพ และกำหนดประเภทข้อมูลดิจิตัล เอกสารบล็อก ที่มีการจำกัดประเภทสื่อเป็นไฟล์ PDF โดยอนุญาตให้ผู้ให้ข้อมูลสามารถเผยแพร่ไฟล์ PDF ได้ แต่ไม่ใช่ไฟล์อื่น เช่น เอกสาร Microsoft Word ในไซต์บล็อก

    จากนั้นระบุประเภทข้อมูลเหล่านี้ทั้งหมดให้กับพื้นที่เก็บข้อมูลสำหรับไซต์บล็อก โดยอนุญาตให้สมาชิกพื้นที่เก็บข้อมูลที่มีบทบาทผู้จัดการหรือผู้ให้ข้อมูลสามารถดำเนินการดังนี้

    • สร้างรายการเนื้อหาจากประเภทเนื้อหา ผู้สร้าง และ บทความ
    • อัปโหลดภาพถ่ายเพื่อสร้างข้อมูลดิจิตัลจากประเภทข้อมูลดิจิตัล ภาพถ่ายของผู้สร้าง ซึ่งสามารถอ้างอิงได้ในฟิลด์ ภาพถ่าย ในรายการเนื้อหาที่สร้างจากประเภทเนื้อหา ผู้สร้าง
    • อัปโหลดรูปภาพหรือวิดีโอตามที่ต้องการเพื่อสร้างข้อมูลดิจิตัลจากประเภทข้อมูลดิจิตัล รูปภาพ หรือ วิดีโอ ที่พร้อมใช้งาน ซึ่งสามารถใช้ได้ในรายการเนื้อหาที่สร้างจากประเภทเนื้อหา บทความ หรือที่อื่นในไซต์
    • อัปโหลดไฟล์ในรูปแบบ PDF เพื่อสร้างข้อมูลดิจิตัลจากประเภทข้อมูลดิจิตัล เอกสารบล็อก ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับบทความบล็อก

    อย่าลืมว่าระบบจะจำกัดให้ผู้ให้ข้อมูลอัปโหลดประเภทไฟล์ที่ระบุในประเภทข้อมูลดิจิตัลที่เชื่อมโยงกับพื้นที่เก็บข้อมูลได้เท่านั้น

  • ภาษา (ข้อกำหนดการโลคัลไลซ์) (ไม่มีในพื้นที่เก็บข้อมูลธุรกิจ)

    หากหน่วยงานของคุณดำเนินการทั่วโลก โดยทั่วไปจะต้องมีการแปลเนื้อหาที่เผยแพร่เป็นภาษาท้องถิ่น ในการใช้งานการแปลเนื้อหา พื้นที่เก็บข้อมูลจะต้องระบุภาษาที่ต้องใช้ คุณสามารถระบุภาษาให้กับพื้นที่เก็บข้อมูลได้โดยตรง อย่างไรก็ตาม ตามวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด คุณสามารถกำหนดภาษาที่ต้องใช้และที่เป็นตัวเลือกสำหรับประเทศหรือพื้นที่หลักผ่านข้อกำหนดการโลคัลไลซ์ คุณระบุข้อกำหนดการโลคัลไลซ์ให้กับช่องทางที่ใช้สำหรับเผยแพร่เนื้อหาไปยังไซต์ แล้วระบุช่องทางการเผยแพร่นั้นให้กับพื้นที่เก็บข้อมูล และภาษาที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดการโลคัลไลซ์ที่เชื่อมโยงจะถูกระบุให้กับพื้นที่เก็บข้อมูลโดยอัตโนมัติ

  • ช่องทางการเผยแพร่ (ไม่มีในพื้นที่เก็บข้อมูลธุรกิจ)

    ช่องทางการเผยแพร่ช่วยให้คุณสามารถกำหนดให้ข้อมูลที่จัดการในพื้นที่เก็บข้อมูลพร้อมใช้งานในเว็บไซต์ (หรือแอปพลิเคชันภายนอกที่สามารถใช้ REST API ได้) ช่องทางจะกำหนดกฎการเผยแพร่ เช่น ต้องมีการอนุมัติข้อมูลก่อนเผยแพร่หรือไม่ เนื้อหาที่เผยแพร่เป็นแบบสาธารณะหรือมีการรักษาความปลอดภัย และหากมีการรักษาความปลอดภัย จะสามารถจำกัดให้คนกลุ่มย่อยที่มีบทบาทผู้ใช้เฉพาะหรือไม่

    หากคุณใช้ Oracle Content Management เพื่อสร้างไซต์บล็อกของคุณ ระบบจะสร้างช่องทางการเผยแพร่โดยอัตโนมัติและระบุให้กับพื้นที่เก็บข้อมูลที่คุณเลือกสำหรับไซต์ หากคุณใช้เทคโนโลยีอื่นในการสร้างและจัดการไซต์บล็อกของคุณ หรือหากคุณวางแผนที่จะเผยแพร่บางบทความบล็อกไปยังโมบายแอปพลิเคชันหรือไซต์อื่น เป็นต้น คุณสามารถสร้างช่องทางการเผยแพร่เพิ่มเติม แล้วระบุให้กับพื้นที่เก็บข้อมูลสำหรับไซต์

    เมื่อคุณระบุช่องทางการเผยแพร่ให้กับพื้นที่เก็บข้อมูลแล้ว สมาชิกพื้นที่เก็บข้อมูลสามารถกำหนดเป้าหมายและเผยแพร่ข้อมูลไปยังช่องทางเหล่านี้ได้ โดยขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของช่องทางการเผยแพร่

  • การจัดชนิด

    บทความในเว็บไซต์ เช่น ไซต์บล็อก โดยทั่วไปจะถูกจัดเป็นชนิดต่างๆ เพื่อช่วยให้ผู้เยี่ยมชมค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยฟิลเตอร์บล็อกโพสต์ตามสิ่งที่สนใจ ชื่อผลิตภัณฑ์ หรือความเชี่ยวชาญเฉพาะหรือความรู้ ตัวอย่างเช่น Oracle Blogs มีไดเรคทอรีบล็อกที่คุณสามารถใช้จำกัดบทความที่เผยแพร่ให้แคบลงสำหรับ Analytics Advantage Blogs, Developers Blogs หรือ Netherlands Blogs

    เพื่อช่วยให้การฟิลเตอร์และการค้นหาในไซต์ที่เผยแพร่หรือแอปพลิเคชันง่ายขึ้น Oracle Content Management ช่วยให้คุณสามารถกำหนดการจัดชนิดที่เกี่ยวข้อง ระบุให้กับพื้นที่เก็บข้อมูล และใช้สำหรับการจัดชนิดข้อมูล คุณสร้างการจัดชนิดโดยการกำหนดคำศัพท์ของคำที่ใช้ในธุรกิจ จัดเรียงเป็นลำดับชั้นของชนิดที่แสดงการกำหนดและจัดประเภทเนื้อหาระหว่างหน่วยงานของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถกำหนดการจัดชนิดสำหรับผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม และพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่หน่วยงานของคุณดำเนินการอยู่ หรือลำดับชั้นชนิดหัวเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องสำหรับหน่วยงานของคุณได้

    เมื่อคุณระบุการจัดชนิดให้กับพื้นที่เก็บข้อมูลแล้ว สมาชิกพื้นที่เก็บข้อมูลสามารถจัดชนิดข้อมูลได้ขณะเพิ่มข้อมูลในพื้นที่เก็บข้อมูลหรือในภายหลัง อินเตอร์เฟซผู้ใช้การค้นหาที่เลือกตามประเภทที่ปรากฏจะช่วยให้สามารถฟิลเตอร์ข้อมูลตามการจัดชนิดในการจัดชนิดหนึ่งหรือระหว่างการจัดชนิดต่างๆ เพื่อค้นหาเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง คุณสามารถเผยแพร่การจัดชนิดเพื่อกำหนดให้ข้อมูลการจัดชนิดพร้อมใช้งานได้ในข้อมูลที่มีการเผยแพร่ไปยังช่องทางเดียวกัน คุณจึงใช้ประโยชน์จากการจัดชนิดเพื่อรองรับการฟิลเตอร์ข้อมูลและค้นหาในเว็บไซต์ที่คุณเผยแพร่หรือแอปพลิเคชัน

  • พื้นที่เก็บข้อมูล

    เมื่อกำหนดประเภทข้อมูล ข้อกำหนดการโลคัลไลซ์ ช่องทางการเผยแพร่ และการจัดชนิดแล้ว ให้สร้างพื้นที่เก็บข้อมูลและเชื่อมโยงออบเจกต์ที่คุณสร้างไว้กับพื้นที่เก็บข้อมูล

ซึ่งจะทำให้การดำเนินการตั้งค่าพื้นฐานเสร็จสมบูรณ์ ในจุดนี้พื้นที่เก็บข้อมูลของคุณพร้อมสำหรับการใช้งานแล้ว หรือคุณสามารถใช้งานความสามารถเพิ่มเติมได้ในพื้นที่เก็บข้อมูลของคุณเพื่อให้ผู้ให้ข้อมูลมีเครื่องมือที่ช่วยกำหนดให้การให้สิทธิ์เนื้อหามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หรือให้คุณในฐานะผู้จัดการพื้นที่เก็บข้อมูลสามารถควบคุมเนื้อหาก่อนที่จะกำหนดให้พร้อมใช้งานบนเว็บแบบสาธารณะ

  • ตัวเชื่อมต่อการแปล (ไม่มีในพื้นที่เก็บข้อมูลธุรกิจ)

    ตามค่าดีฟอลต์ Oracle Content Management มีความสามารถในการแปลเนื้อหาเป็นภาษาที่ต้องการด้วยตนเอง กล่าวคือคุณสามารถเพิ่มภาษาใหม่ในข้อมูลเดียวเท่านั้นหรือเอ็กซ์ปอร์ตข้อมูลเป็นกลุ่ม เช่น ไฟล์ ZIP ที่มีสตริงข้อความที่ดึงมาสำหรับการแปล หากหน่วยงานของคุณใช้คู่ค้าภายนอก เช่น Lingotek, Lionbridge หรือ SDL สำหรับการแปลเนื้อหา คุณสามารถรีจีสเตอร์ตัวเชื่อมต่อการแปลที่เกี่ยวข้องกับ Oracle Content Management แล้วระบุตัวเชื่อมต่อการแปลให้กับพื้นที่เก็บข้อมูล เพื่อให้ผู้ให้ข้อมูลสามารถส่งข้อมูลสำหรับการแปลตามคู่ค้าภายนอกได้อย่างง่ายดาย

  • ตัวเชื่อมต่อเนื้อหา

    หากหน่วยงานของคุณใช้บริการพื้นที่เก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์ภายนอก เช่น Dropbox, Google Drive หรือ Microsoft OneDrive สำหรับการใช้ข้อมูลดิจิตัลร่วมกันกับบริษัทตัวแทนการออกแบบภายนอก คุณสามารถรีจีสเตอร์ตัวเชื่อมต่อเนื้อหาสำหรับบริการพื้นที่เก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Oracle Content Management และระบุตัวเชื่อมต่อเนื้อหาให้กับพื้นที่เก็บข้อมูล เพื่อให้ผู้ให้ข้อมูลสามารถเพิ่มไฟล์ในพื้นที่เก็บข้อมูลโดยตรงจากพื้นที่เก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์ภายนอกได้อย่างง่ายดาย

  • Smart Content

    คุณสามารถช่วยผู้ให้ข้อมูลค้นหารูปภาพที่เกี่ยวข้องที่ค้นหา เพิ่มรูปภาพที่เกี่ยวข้องในรายการเนื้อหา หรือจัดชนิดข้อมูลด้วยการจัดชนิดโดยใช้งานคุณสมบัติ Smart Content ในพื้นที่เก็บข้อมูล เมื่อคุณดำเนินการดังกล่าว รูปภาพทั้งหมดที่เพิ่มในพื้นที่เก็บข้อมูลและรายการเนื้อหาทั้งหมดที่สร้างในพื้นที่เก็บข้อมูลจะถูกประมวลผลโดยระบบปัญญาประดิษฐ์ในตัวและบริการการประมวลผลภาษาธรรมชาติโดยมีการแท็กอัตโนมัติและดึงข้อมูลคำหลักจากข้อความ

  • เวิร์กโฟลว์ (ไม่มีในพื้นที่เก็บข้อมูลธุรกิจ)

    โดยทั่วไปเนื้อหาต้องมีการตรวจสอบและอนุมัติโดยบุคคลระดับเดียวกันหรือผู้จัดการก่อนเผยแพร่ คุณสามารถใช้งานการควบคุมดังกล่าวในพื้นที่เก็บข้อมูลของคุณโดยการตรวจสอบให้แน่ใจว่าช่องทางการเผยแพร่ทั้งหมดที่ระบุให้พื้นที่เก็บข้อมูลตั้งค่าเป็น เผยแพร่รายการที่อนุมัติเท่านั้น

    ตามค่าดีฟอลต์ Oracle Content Management ใช้งานผู้ให้ข้อมูลเพื่อส่งข้อมูลสำหรับการตรวจสอบโดยผู้จัดการพื้นที่เก็บข้อมูล

    หากหน่วยงานของคุณกำหนดให้ต้องตรวจสอบเนื้อหาในเวิร์กโฟลว์หลายขั้นตอนโดยบุคคลระดับเดียวกัน ผู้แก้ไขทางเทคนิค ผู้จัดการ ฝ่ายการปฏิบัติตามข้อกำหนด หรือทีมฝ่ายกฏหมายของคุณ คุณสามารถรีจีสเตอร์กระบวนการ Oracle Integration กับ Oracle Content Management แล้วจึงระบุให้กับพื้นที่เก็บข้อมูล จากนั้นผู้ให้ข้อมูลสามารถส่งข้อมูลสำหรับการตรวจสอบผ่านเวิร์กโฟลว์ที่เกี่ยวข้อง ผู้เข้าร่วมเวิร์กโฟลว์จะได้รับแจ้งเมื่อมีการระบุงานมาและสามารถดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลได้ตามบทบาทที่ระบุให้ในเวิร์กโฟลว์

สิทธิ์และบทบาท

ในการเข้าใช้อินเตอร์เฟซผู้ใช้การจัดการเนื้อหา (เนื้อหา ภายใต้ การดูแลระบบ ในเมนูการนาวิเกตทางซ้าย) คุณต้องมีบทบาทผู้ใช้ระดับองค์กรและมีบทบาทผู้ดูแลระบบอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

  • ผู้ดูแลระบบเนื้อหา—บทบาทนี้ให้คุณสามารถสร้างประเภทข้อมูลและการจัดชนิดได้
  • ผู้ดูแลระบบพื้นที่เก็บข้อมูล—บทบาทนี้ให้คุณสามารถสร้างพื้นที่เก็บข้อมูล ช่องทางการเผยแพร่ และข้อกำหนดการโลคัลไลซ์ และรีจีสเตอร์เวิร์กโฟลว์ได้

ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่คุณต้องทราบเกี่ยวกับผู้ที่สามารถดูหรือดำเนินการออบเจกต์การจัดการเนื้อหาต่างๆ

  • พื้นที่เก็บข้อมูล—เมื่อคุณสร้างพื้นที่เก็บข้อมูล คุณจะได้รับบทบาทผู้จัดการซึ่งคุณสามารถแก้ไขการตั้งค่าพื้นที่เก็บข้อมูลและการเป็นสมาชิกได้ คุณสามารถเพิ่มผู้ดูแลระบบอื่นในพื้นที่เก็บข้อมูลเป็นผู้จัดการเพื่ออนุญาตให้จัดการพื้นที่เก็บข้อมูลได้ คุณสามารถเพิ่มผู้ใช้ระดับองค์กรอื่นในพื้นที่เก็บข้อมูลเป็นผู้ให้ข้อมูลเพื่ออนุญาตให้เพิ่มข้อมูลในพื้นที่เก็บข้อมูล หรือเป็นผู้ดูเพื่อดูข้อมูลในพื้นที่เก็บข้อมูลได้
  • ประเภทข้อมูล—เมื่อคุณสร้างประเภทข้อมูล คุณจะได้รับบทบาทผู้จัดการซึ่งอนุญาตให้คุณแก้ไขประเภทข้อมูลและการเป็นสมาชิกได้ คุณสามารถเพิ่มผู้ดูแลระบบอื่นในประเภทข้อมูลเป็นผู้จัดการเพื่ออนุญาตให้จัดการประเภทข้อมูลได้ สามารถใช้ประเภทข้อมูลเพื่อสร้างข้อมูลในพื้นที่เก็บข้อมูลที่เชื่อมโยงโดยสมาชิกพื้นที่เก็บข้อมูลที่มีบทบาทผู้ให้ข้อมูลเป็นอย่างน้อยในพื้นที่เก็บข้อมูล
  • ช่องทางการเผยแพร่ (ไม่มีในพื้นที่เก็บข้อมูลธุรกิจ)—เมื่อคุณสร้างช่องทางการเผยแพร่ คุณจะได้รับการระบุบทบาทผู้จัดการ ซึ่งคุณสามารถแก้ไขการตั้งค่าช่องทางและการเป็นสมาชิกได้ คุณสามารถเพิ่มผู้ดูแลระบบอื่นในช่องทางเป็นผู้จัดการเพื่ออนุญาตให้จัดการช่องทางได้ คุณสามารถเพิ่มผู้ใช้ระดับองค์กรอื่นๆ ในช่องทางเป็นผู้ให้ข้อมูลเพื่ออนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลในช่องทางได้
  • การจัดชนิด—เมื่อคุณสร้างการจัดชนิด ระบบจะสร้างเป็นสถานะแบบร่าง ในการอนุญาตให้ผู้ใช้จัดชนิดข้อมูลด้วยการจัดชนิด คุณต้องเพิ่มระดับ แล้วเพิ่มในพื้นที่เก็บข้อมูล