ดำเนินงานดูแลระบบลูกบาศก์ในเครื่องมือออกแบบลูกบาศก์

1. ใน Excel ในริบบิ้นเครื่องมือออกแบบลูกบาศก์ ให้เลือก จัดการงาน
2. จากเมนู ให้เลือก ลบแอปพลิเคชัน หรือ ลบลูกบาศก์
3. จากไดอะล็อกบ็อกซ์ ลบแอปพลิเคชัน หรือ ลบลูกบาศก์ ให้เลือกแอปพลิเคชันหรือลูกบาศก์ที่คุณต้องการลบ

Essbase จะใช้เครื่องมือเช็คเอาต์สำหรับออบเจกต์ลูกบาศก์ (เช่น สคริปต์การคำนวณและไฟล์กฎ) ออบเจกต์จะถูกล็อคโดยอัตโนมัติเมื่อมีการใช้งานอยู่ และจะมีการลบล็อคเมื่อไม่มีการใช้งานอีกต่อไป

1. ใน Excel ในริบบิ้นเครื่องมือออกแบบลูกบาศก์ ให้เลือก งานด้านการดูแลระบบ
2. เลือก ปลดล็อคออบเจ็กต์ Essbase
3. ป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านสำหรับล็อกอิน หากระบบแสดงพรอมต์ให้ทำเช่นนั้น
4. ภายใต้ เลือกแอปพลิเคชัน เลือกแอปพลิเคชันที่มีออบเจกต์ที่คุณต้องการปลดล็อค
5. ภายใต้ เลือกออบเจ็กต์ที่ล็อค เลือกออบเจกต์ที่คุณต้องการปลดล็อค
6. คลิก ปลดล็อค

ในเครื่องมือออกแบบลูกบาศก์ คุณสามารถดูล็อกของแพลตฟอร์มหรือล็อกของแอปพลิเคชันได้

1. ใน Excel ในริบบิ้นเครื่องมือออกแบบลูกบาศก์ ให้เลือก งานด้านการดูแลระบบ
2. จากเมนู ให้เลือก ดูล็อก
3. เลือกล็อกที่ต้องการดู:
   • เลือก ดูล็อกแพลตฟอร์ม เพื่อดูล็อกของบริการแพลตฟอร์ม
   • เลือก ดูล็อกแอปพลิเคชัน เพื่อดูล็อกของแต่ละแอปพลิเคชัน

คุณสามารถเลือกในเครื่องมือออกแบบลูกบาศก์ว่าจะจัดการแอปพลิเคชันใดที่ Essbase Administration Services (EAS) Lite

แม้ว่า เว็บอินเตอร์เฟซ Essbase จะเป็นอินเตอร์เฟซการดูแลระบบอันทันสมัยที่รองรับคุณสมบัติแพลตฟอร์มปัจจุบันทั้งหมด แต่เวอร์ชันไลท์ของ Essbase Administration Services เป็นตัวเลือกการรองรับที่จำกัดสำหรับการจัดการแอปพลิเคชันของคุณอย่างต่อเนื่อง หากองค์กรของคุณยังไม่พร้อมที่จะรับอินเตอร์เฟซใหม่ ตัวเลือกนี้มีให้ใช้เฉพาะสำหรับการติดตั้ง Essbase 21c อย่างอิสระจาก Essbase

ดูที่ ใช้ Essbase Administration Services Lite เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ EAS Lite และวิธีการตั้งค่าแอปพลิเคชันให้ได้รับการจัดการโดย EAS ในเครื่องมือออกแบบลูกบาศก์

ในการดำเนินการแก้ไขไดเมนชันบางรายการขณะที่เก็บข้อมูลทั้งหมดโดยใช้เครื่องมือออกแบบลูกบาศก์ คุณต้องใช้โหมดส่วนเพิ่ม 'รีเซ็ตไดเมนชัน' บนเวิร์กชีทไดเมนชันในเวิร์กบุคของแอปพลิเคชัน

การใช้ตัวเลือกรีเซ็ตไดเมนชันจะล้างข้อมูลสมาชิกออกจากไดเมนชัน และสร้างไดเมนชันอีกครั้งโดยยังคงข้อมูลอยู่

คุณต้องอัปเดตไดเมนชันทั้งหมดเมื่อใช้การรีเซ็ตไดเมนชัน มิฉะนั้นสมาชิกและข้อมูลต่างๆ จะสูญหายไป

เว้นการตั้งค่าตัวเลือกย้ายได้เป็น 'ไม่' มิฉะนั้นคุณจะไม่สามารถสร้างสมาชิกที่ใช้ร่วมกันได้

ไม่รองรับการเปลี่ยนชื่อสมาชิกโดยใช้เทคนิคนี้

การอัปเดตลูกบาศก์คือ วิธีที่คุณโหลดไดเมนชันและสมาชิกไปยังเอาต์ไลน์ของลูกบาศก์โดยใช้ที่มาข้อมูลและไฟล์กฎ

นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ Essbase เพื่อเพิ่มไดเมนชันและสมาชิกด้วยตนเอง (โปรดดู การสร้างและการอัปเดตลูกบาศก์จากข้อมูลแบบตาราง)

ในลูกบาศก์ที่มีอยู่ คุณสามารถอัปเดตไดเมนชันเพิ่มเติม หรือเพิ่มไดเมนชันใหม่

คุณไม่สามารถใช้เครื่องมือออกแบบลูกบาศก์ เพื่อลบไดเมนชันหรือเปลี่ยนชื่อสมาชิกในลูกบาศก์ที่มีอยู่

1. ใน Excel ในริบบิ้นเครื่องมือออกแบบลูกบาศก์ ให้เลือก สร้างลูกบาศก์

2. เลือกตัวเลือก อัปเดตลูกบาศก์ จากเมนู ตัวเลือกการสร้าง

   เมื่อเอาต์ไลน์มีการเปลี่ยนแปลงโดยการสร้างไดเมนชัน อาจมีการปรับโครงสร้างฐานข้อมูล ตัวเลือกแต่ละรายการเหล่านี้จะระบุวิธีการจัดการค่าข้อมูลระหว่างการปรับโครงสร้างดังนี้

   1. อัปเดตลูกบาศก์ - เก็บข้อมูลทั้งหมด

      ค่าข้อมูลทั้งหมดจะยังคงเดิม

   2. อัปเดตลูกบาศก์ - เก็บข้อมูลอินพุต

      บล็อคทั้งหมด (ทั้งระดับบนและล่าง) ที่มีข้อมูลที่โหลดจะยังคงเดิม

      ตัวเลือกนี้จะใช้กับลูกบาศก์ของพื้นที่เก็บข้อมูลบล็อคเท่านั้น

   3. อัปเดตลูกบาศก์ - เก็บข้อมูลระดับต่ำสุด

      เฉพาะค่าระดับต่ำสุด (ระดับ 0) จะยังคงเดิม หากข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการคำนวณอยู่ในสมาชิกระดับต่ำสุด คุณควรเลือกตัวเลือกนี้ ถ้าเลือก บล็อคระดับบนทั้งหมดจะถูกลบก่อนการปรับโครงสร้างลูกบาศก์ ดังนั้น พื้นที่ดิสก์ที่จำเป็นสำหรับการปรับโครงสร้างจะลดลง และเวลาในการคำนวณจะดีขึ้น เมื่อมีการคำนวณลูกบาศก์อีกครั้ง ระบบจะสร้างบล็อคระดับบนอีกครั้ง

   4. อัปเดตลูกบาศก์ - ย้ายข้อมูลทั้งหมดออก

      ระบบจะล้างค่าข้อมูลทั้งหมด

      ตัวเลือกนี้จะใช้กับลูกบาศก์ของพื้นที่เก็บข้อมูลบล็อคเท่านั้น

• การกำหนดการสร้างไดเมนชันจะอยู่ภายในเวิร์กบุคของแอปพลิเคชัน และจะสร้างไฟล์กฎที่จำเป็นโดยอัตโนมัติ คุณไม่ได้เลือกไฟล์กฎเมื่อสร้างไดเมนชันในเครื่องมือออกแบบลูกบาศก์

• เมื่อทำการเปลี่ยนแปลงกับแอททริบิวที่ผู้ใช้กำหนด (UDA) ขณะที่อัปเดตลูกบาศก์ส่วนเพิ่มโดยใช้เครื่องมือออกแบบลูกบาศก์และเวิร์กบุคของแอปพลิเคชัน คุณต้องระบุ UDA ทั้งหมดในชีทไดเมนชัน ทั้งรายการใหม่ที่คุณกำลังเพิ่มและ UDA เดิมในเอาต์ไลน์ หากคุณระบุ UDA แค่บางส่วน (เช่น แค่ที่คุณกำลังเพิ่ม) ไม่ใช่ทั้งหมด รายการเหล่านั้นจะไม่ได้รับการระบุและจะถูกลบออก

• เมื่อเพิ่มไดเมนชันทีละส่วนในลูกบาศก์ที่มีอยู่โดยใช้เวิร์กบุคของแอปพลิเคชัน ระบบจะแมปข้อมูลกับสมาชิกใหม่ระดับสูงโดยอัตโนมัติ โดยไม่มีวิธีการเลือกสมาชิกที่จัดเก็บเพื่อแมปกับข้อมูลที่มีอยู่ หากไดเมนชันใหม่มีสมาชิกระดับสูงที่เป็นการคำนวณแบบไดนามิค ข้อมูลจะสูญหายไปเนื่องจากสมาชิกแบบไดนามิคไม่สามารถจัดเก็บข้อมูลได้

  เมื่อใช้เวิร์กบุคของแอปพลิเคชันในการเพิ่มไดเมนชันใหม่ ซึ่งคุณต้องการให้สมาชิกระดับสูงเป็นการคำนวณแบบไดนามิค ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. เพิ่มไดเมนชันใหม่ที่มีสมาชิกระดับสูงเป็นสมาชิกที่จัดเก็บ
  2. รันสคริปต์การคำนวณเพื่อคัดลอกข้อมูลจากสมาชิกใหม่ระดับสูงลงในสมาชิกที่จัดเก็บอื่นในไดเมนชันนั้น
  3. เปลี่ยนแปลงสมาชิกระดับสูงเป็นการคำนวณแบบไดนามิค

1. ใน Excel บนริบบิ้นเครื่องมือออกแบบลูกบาศก์ ให้คลิก แคตตาล็อก
2. ในไดอะล็อกบ็อกซ์ ไฟล์ Essbase ภายใต้ แคตตาล็อก ให้เลือก แกลเลอรี่ แล้วเลือกไฟล์ข้อมูลแบบตารางตัวอย่างดังนี้
   • ทางเทคนิค > รูปแบบตาราง > Sample_Table.xlsx: ส่วนหัวในระบบ
   • ทางเทคนิค > รูปแบบตาราง > Unstr_Hints.xlsx: ส่วนหัวที่บังคับการกำหนดชื่อ
3. คลิก เปิด
4. ในริบบิ้นเครื่องมือออกแบบลูกบาศก์ ให้เลือก แปลงรูปแบบข้อมูล
5. ในไดอะล็อกบ็อกซ์ แปลงรูปแบบข้อมูล ให้ป้อนชื่อแอปพลิเคชันและลูกบาศก์ หากคุณต้องการเปลี่ยนชื่อดีฟอลต์ที่ได้รับการป็อปปูเลทล่วงหน้า หากมีชื่อแอปพลิเคชันอยู่แล้ว คุณจะไม่สามารถแสดงตัวอย่างข้อมูลหรือสร้างลูกบาศก์ใหม่ ดังนั้น คุณจึงต้องป้อนชื่อแอปพลิเคชันใหม่
   ชื่อแอปพลิเคชันจะขึ้นอยู่กับชื่อไฟล์ที่มาโดยไม่มีนามสกุล และชื่อลูกบาศก์จะขึ้นอยู่กับชื่อเวิร์กชีท
   • Sample_Table.xlsx: ชื่อแอปพลิเคชันคือ Sample_Table และชื่อลูกบาศก์คือ Sales
   • Unstr_Hints.xlsx: ชื่อแอปพลิเคชันคือ Unstr_Hints และชื่อลูกบาศก์คือ SpendHistory
6. หากคุณเลือก Sample_Table.xlsx อย่าเลือก แสดงตัวอย่างข้อมูล ข้ามไปยังขั้นตอน 8 เพื่อสร้างลูกบาศก์
7. หากคุณเลือก Unstr_Hints.xlsx ให้กด แสดงตัวอย่างข้อมูล ระบบจะส่งเวิร์กบุคไปยัง Essbase สำหรับการวิเคราะห์ และจะแสดงความสัมพันธ์สำหรับการดู
   1. เมื่อใช้วิวโครงสร้าง คุณสามารถลากและวางสมาชิก (และรายการระดับล่างของสมาชิก) ไปยังตำแหน่งอื่นในโครงสร้างได้ กระบวนการนี้จะเปลี่ยนแปลงการกำหนดชื่อดีฟอลต์ และเมื่อดำเนินการดังกล่าว จะสร้างลำดับชั้นไดเมนชันอื่น ลำดับชั้นการวัด และสมาชิกที่ข้ามอื่นที่ไม่ใช่การวิเคราะห์ดีฟอลต์ที่ระบุให้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถคลิกขวาที่ชื่อสมาชิกและกำหนดคุณสมบัติของสมาชิก ดังนี้ Generation, Attribute, Alias หรือ UDA
      ในบางกรณี เมื่อคุณเปลี่ยนแปลงสมาชิกจากการกำหนดชื่อหนึ่งเป็นการกำหนดชื่ออื่น จะมีลักษณะการทำงานพิเศษ ดังนี้

      • เมื่อคุณลากและวางรุ่นไปยังการวัด แอททริบิว, UDA และชื่อแทนทั้งหมดของรุ่นที่มาจะถูกย้ายไปยังการวัดด้วยเช่นกัน
      • เมื่อคุณลากรุ่นไปยังข้าม แอททริบิว, UDA และชื่อแทนทั้งหมดในรุ่นดังกล่าวจะถูกย้ายไปยังข้ามด้วย
      • การลากและวางการวัดไปยังการกำหนดชื่ออื่นจะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อการวัดไม่มีสูตรเท่านั้น
   2. หากคุณไม่ต้องการบันทึกการเปลี่ยนแปลงของคุณ ให้เลือก ตัวเลือก แล้วเลือก รีเซ็ตเป็นส่วนหัวเดิม
   3. หากคุณต้องการเปลี่ยนประเภทลูกบาศก์และประเภทของไดเมนชันที่จะสร้าง ก่อนการใช้งาน ให้เลือก ตัวเลือก แล้วเลือก ประเภทลูกบาศก์ เลือก Hybrid BSO (ตัวเลือกพื้นที่เก็บข้อมูลบล็อค) หรือ ASO (ตัวเลือกพื้นที่เก็บข้อมูลการสรุปรวม)
   4. คุณสามารถกำหนดให้การวิเคราะห์ตรวจหาการกำหนดชื่อได้สองชนิด ดังนี้ การวัดและไดเมนชันลำดับชั้น หรือการวัด, ไดเมนชันลำดับชั้น และแอททริบิว กำหนดตัวเลือกเหล่านี้ได้โดยการเลือก ตัวเลือก จากนั้นเลือก การออกแบบลูกบาศก์ แล้วเลือกตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่ง หลังจากที่คุณเลือกรายการแล้ว ให้คลิก แสดงตัวอย่าง อีกครั้ง
      
      
      
      
8. เมื่อคุณพร้อมสร้างลูกบาศก์ ให้คลิก รัน
9. เมื่อระบบถามว่าคุณต้องการสร้างลูกบาศก์หรือไม่ ให้คลิก ใช่
10. (เลือกระบุได้) เมื่อระบบถามว่าคุณต้องการดูสถานะงานของลูกบาศก์หรือไม่ ให้คลิก ใช่
    
    
    
    
    แอปพลิเคชันและลูกบาศก์ที่สร้างขึ้นใหม่จะแสดงในเพจ แอปพลิเคชัน ในเว็บอินเตอร์เฟซ Essbase และสามารถใช้ได้ในเครื่องมือออกแบบลูกบาศก์ ขณะนี้ มีการสร้างลูกบาศก์จากข้อมูลแบบตาราง คุณสามารถเอ็กซ์ปอร์ตลูกบาศก์ไปยังเวิร์กบุคของแอปพลิเคชัน
11. ในริบบิ้นเครื่องมือออกแบบลูกบาศก์ ให้เลือก ในระบบ แล้วเลือก เอ็กซ์ปอร์ตลูกบาศก์ไปยังเวิร์กบุคของแอปพลิเคชัน
12. ในไดอะล็อกบ็อกซ์ เอ็กซ์ปอร์ตลูกบาศก์ไปยังเวิร์กบุคของแอปพลิเคชัน ให้เลือกแอปพลิเคชันและลูกบาศก์ แล้วเลือก รัน

1. เลือกเมทธอดการสร้าง ซึ่งอาจเป็นรูปแบบรายการระดับบน-ล่าง หรือรูปแบบรุ่น
2. ใน Excel ที่ริบบิ้นเครื่องมือออกแบบลูกบาศก์ เลือก ในระบบ แล้วเลือก เอ็กซ์ปอร์ตลูกบาศก์ไปยังเวิร์กบุคของแอปพลิเคชัน
3. ในไดอะล็อกบ็อกซ์ เอ็กซ์ปอร์ตลูกบาศก์ เลือกแอปพลิเคชันและลูกบาศก์ที่คุณต้องการเอ็กซ์ปอร์ต
   • เลือก รวมข้อมูล ถ้าคุณต้องการรวมข้อมูลระดับอินพุตในเวิร์กบุคของแอปพลิเคชัน

     • ในลูกบาศก์ของพื้นที่เก็บข้อมูลบล็อค หากข้อมูลมีขนาด 400 เมกะไบต์ หรือน้อยกว่า จะมีการเอ็กซ์ปอร์ตไปยังเวิร์กบุคของแอปพลิเคชันในเวิร์กชีทข้อมูล หากข้อมูลมีขนาดเกิน 400 เมกะไบต์ จะมีการเอ็กซ์ปอร์ตข้อมูลไปยังไฟล์แบบแฟลตชื่อ Cubename.txt ซึ่งรวมอยู่ในไฟล์ชื่อ Cubename.zip ไฟล์ .zip จะถูกสร้างขึ้นในไดเรคทอรีการเอ็กซ์ปอร์ตที่ระบุหากกระบวนการเอ็กซ์ปอร์ตสำเร็จ

     • ในลูกบาศก์ของพื้นที่เก็บข้อมูลการสรุปรวม ไม่ว่าข้อมูลจะมีขนาดเท่าใด ระบบจะเอ็กซ์ปอร์ตไปยังไฟล์แบบแฟลตชื่อ Cubename.txt ซึ่งรวมอยู่ในไฟล์ชื่อ Cubename.zip เสมอ ไฟล์ .zip จะถูกสร้างขึ้นในไดเรคทอรีการเอ็กซ์ปอร์ตที่ระบุหากกระบวนการเอ็กซ์ปอร์ตสำเร็จ

   • เลือก รวมสคริปต์การคำนวณ ถ้าคุณต้องการรวมสคริปต์การคำนวณในลูกบาศก์พื้นที่เก็บข้อมูลบล็อคของคุณในเวิร์กบุคของแอปพลิเคชัน

     ลูกบาศก์ของพื้นที่เก็บข้อมูลการสรุปรวมไม่มีสคริปต์การคำนวณ

   • เลือก รวม ID สมาชิก หากคุณต้องการรวม ID สมาชิก ในชีทไดเมนชันในเวิร์กบุคของแอปพลิเคชัน
   
   

   

   
   
4. คลิก รัน
5. เมื่อการเอ็กซ์ปอร์ตเสร็จสมบูรณ์ คลิก ตกลง
   ระบบจะบันทึกเวิร์กบุคของแอปพลิเคชันในตำแหน่งโฟลเดอร์ในระบบ: C:\Users\username\AppData\Roaming\Oracle\smartview\DBX เนื่องจากได้บันทึกในตำแหน่งโฟลเดอร์ในระบบ คุณสามารถเปิดได้โดยใช้ไอคอน ในระบบ บนริบบิ้นเครื่องมือออกแบบลูกบาศก์