ประเภทข้อมูลจะกำหนดว่าข้อมูลใดจำเป็นสำหรับข้อมูลของคุณ ข้อมูลรายการได้รับการบันทึกแยกต่างหากจากเลย์เอาต์ (วิธีที่นำเสนอข้อมูล) วิธีดังกล่าวจะทำให้ข้อมูลที่ผู้ใช้สร้างสามารถใช้ได้บนเว็บไซต์ หรือในโบรชัวร์ หรือในตำแหน่งที่ต้องการ โดยจะปรากฏในแบบที่เหมาะสมกับสถานการณ์
ข้อมูลมีสองประเภทหลัก ได้แก่ ประเภทข้อมูลดิจิตัล และ ประเภทเนื้อหา
ประเภทข้อมูลดิจิตัล จะกำหนดว่ามีการรวมข้อมูลใดกับข้อมูลดิจิตัล เช่น รูปภาพ วิดีโอ หรือไฟล์ ตัวอย่างเช่น รูปภาพอาจมีข้อมูล EXIF จากกล้อง (วันที่ เวลา ตำแหน่งที่ตั้ง ความละเอียด เป็นต้น), การตั้งค่าระบบ (วันที่สร้างข้อมูล วันที่อัปเดตล่าสุด สถานะ เวอร์ชัน เป็นต้น) และเมตะดาต้าที่กำหนดเอง เมตะดาต้าที่กำหนดเองนั้นคือส่วนที่ประเภทของข้อมูลดิจิตัลเข้ามา คุณอาจต้องการรวบรวมข้อมูลลิขสิทธิ์ การใช้งานที่อนุญาต และข้อมูลการติดต่อสำหรับแต่ละภาพของคุณ Oracle Content Management มีประเภทข้อมูลดิจิตัลที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์หลายประเภทดังนี้: ไฟล์, รูปภาพ และวิดีโอ
ประเภทเนื้อหา เป็นเฟรมเวิร์กที่ใช้ในการระบุข้อมูลที่จะรวมไว้ในรายการเนื้อหา รูปภาพด้านล่าแสดงว่าประเภทเนื้อหา (1) สามารถมีเลย์เอาต์ (2) ที่เชื่อมโยงอยู่ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดลักษณะที่ปรากฏและข้อมูลที่ใช้ในเลย์เอาต์เฉพาะนั้นๆ ตัวอย่างเช่น คุณอาจต้องการให้สับเซ็ตของข้อมูลปรากฏบนลิสต์ผู้ติดต่อของพนักงาน แต่คุณก็อาจต้องการให้รูป ตำแหน่ง และตำแหน่งงานของพนักงานปรากฏอยู่ในตำแหน่งอื่นบนเว็บไซต์ของคุณ เมื่อคุณสร้างรายการเนื้อหาโดยใช้ประเภทเนื้อหา คุณจะสามารถดูตัวอย่างลักษณะที่ปรากฏด้วยเลย์เอาต์ที่แตกต่างกันออกไปได้
หมายเหตุ:
ถ้าคุณใช้ Oracle Content Management Starter Edition คุณจะมีการรองรับประเภทข้อมูลแบบจำกัด:ในการเพิ่มจำนวนข้อมูลและใช้ประโยชน์จากชุดคุณสมบัติทั้งหมด ให้อัปเกรดเป็น Premium Edition
ถ้าคุณมีสิทธิ์ที่เหมาะสม คุณสามารถ กำหนดประเภทข้อมูล ในเว็บอินเตอร์เฟซ Oracle Content Management ใน การดูแลระบบ > เนื้อหา
แต่ละประเภทข้อมูลประกอบด้วยชุดการกำหนดฟิลด์ จากตัวอย่างก่อนหน้า มีการกำหนดฟิลด์ 4 ฟิลด์สำหรับประเภทเนื้อหาชื่อ 'บทความ' ดังนี้: ชื่อเรื่อง, เนื้อหา, ผู้สร้าง และรูปภาพ ฟิลด์เหล่านี้จะแสดงในฟอร์มรายการข้อมูลที่ผู้ใช้กรอกข้อมูลเมื่อสร้างข้อมูลตามประเภทข้อมูล
เมื่อกำหนดประเภทข้อมูลแล้ว จะต้องเพิ่มไปยังพื้นที่เก็บข้อมูล และผู้ใช้ต้องได้รับสิทธิ์เข้าใช้ระดับผู้ให้ข้อมูลเพื่อให้สามารถสร้างข้อมูลประเภทนั้นในพื้นที่เก็บข้อมูลได้ จากนั้นจะสามารถจัดการ เผยแพร่ และใช้ข้อมูลได้ในทุกช่องทาง