ความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์

จุดเริ่มต้นสำหรับการดูและการทำงานกับข้อมูลสถานการณ์ใน Smart View มีสองแบบ

คุณสามารถใช้เว็บอินเตอร์เฟซ Essbase เพื่อเริ่มต้นสถานการณ์ใน Smart View หรือคุณสามารถใช้การเชื่อมต่อส่วนบุคคลของ Smart View และทำงานกับข้อมูลสถานการณ์ด้วยวิธีนั้น

ตามค่าดีฟอลต์ Essbase จะคำนวณสมาชิกทั้งหมดจากไดเมนชัน ยกเว้นกรณีที่ใช้คำสั่ง FIX เพื่อจำกัดขอบเขตของการคำนวณไว้เฉพาะสมาชิกหรือกลุ่มของสมาชิกจากไดเมนชัน

แซนด์บ็อกซ์ไดเมนชันเป็นข้อยกเว้นสำหรับการทำงานนี้ ถ้าไม่ได้รวมสมาชิกจากแซนด์บ็อกซ์ไดเมนชันไว้ในคำสั่ง FIX สำหรับการคำนวณ ระบบจะคำนวณเฉพาะสมาชิกหลักจากแซนด์บ็อกซ์ไดเมนชันตามค่าดีฟอลต์ ในการคำนวณสมาชิกที่ไม่ใช่สมาชิกหลักจากแซนด์บ็อกซ์ไดเมนชัน ให้รวมไว้ในคำสั่ง FIX รวมถึงสมาชิกหลักได้ด้วยเช่นกัน

เมื่อคุณระบุสมาชิกแซนด์บ็อกซ์ที่ไม่ใช่สมาชิกพื้นฐานในคำสั่ง FIX ระบบจะไม่รวมสมาชิกพื้นฐานไว้ในการคำนวณ ยกเว้นกรณีที่ได้เพิ่มไว้ในคำสั่ง FIX โดยตรง

การทำงานนี้แตกต่างจากการคำนวณในไดเมนชันที่ไม่ใช่แซนด์บ็อกซ์ซึ่งแยกจากคำสั่ง Fix หากคุณแยกไดเมนชันออกจากคำสั่ง Fix Essbase จะคำนวณสมาชิกทั้งหมดจากไดเมนชันแบบโดยนัย ไดเมนชันแซนด์บ็อกซ์จะถูกคำนวณต่างกัน เนื่องจากโดยปกติมีจุดมุ่งหมายเพื่อคำนวณค่าพื้นฐานหรือแซนด์บ็อกซ์ที่กำหนดในเวลาที่ระบุ Essbase จะคำนวณค่าสมาชิกพื้นฐาน แทนที่จะคำนวณค่าแซนด์บ็อกซ์ที่ทำงาน ยกเว้น:

• เมื่อการคำนวณแก้ไขสมาชิกแซนด์บ็อกซ์เฉพาะ

• เมื่อมีการรันการคำนวณจากชีทที่เริ่มต้นจากสถานการณ์ในเว็บอินเตอร์เฟซ (ซึ่งเรียกว่า ชีทที่เริ่มต้นสถานการณ์) โปรดดู ดูและทำงานกับข้อมูลสถานการณ์จากเว็บอินเตอร์เฟซ Essbase

• เมื่อมีการเลือกค่าเซลล์ของแซนด์บ็อกซ์ในชีท Smart View ของการเชื่อมต่อส่วนบุคคลและมีการเริ่มต้นสคริปต์การคำนวณ

ถ้าคุณรันสคริปต์การคำนวณจากชีทที่เริ่มต้นสถานการณ์ การคำนวณจะรันในแซนด์บ็อกซ์ที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์ถ้าไม่มีการระบุแซนด์บ็อกซ์ในสคริปต์

หากคุณอยู่ในชีทที่เปิดอยู่ซึ่งใช้การเชื่อมต่อส่วนบุคคลของ Smart View และคุณกำลังแสดงผลแซนด์บ็อกซ์และค่าพื้นฐาน หากคุณไฮไลต์เซลล์ข้อมูลใดๆ จากแซนด์บ็อกซ์ และเริ่มต้นสคริปต์การคำนวณโดยไม่มีการแก้ไขแซนด์บ็อกซ์โดยตรง ระบบจะคำนวณแซนด์บ็อกซ์ให้โดยนัย และ Smart View จะระบุว่ามีการคำนวณแซนด์บ็อกซ์แล้ว หากคุณไฮไลต์เซลล์จากสมาชิกพื้นฐาน (หรือไม่ไฮไลต์เซลล์) ระบบจะคำนวณสมาชิกพื้นฐานเมื่อคุณเริ่มต้นสคริปต์การคำนวณ และ Smart View จะระบุว่ามีการคำนวณสมาชิกพื้นฐานแล้ว

คุณสามารถคำนวณสมาชิกแซนด์บ็อกซ์ได้โดยใช้สคริปต์ MaxL ของคุณที่มีอยู่ก่อนหน้าแล้ว โดยใช้ชื่อตัวแปรแทนแบบรันไทม์ที่สำรองไว้: ess_sandbox_mbr

คำสั่งนี้สามารถนำไปใช้ (สำหรับแซนด์บ็อกซ์ของคุณ) ได้ในสคริปต์ MaxL โดยไม่ต้องสร้างตัวแปรแทนใดๆ ในเซิร์ฟเวอร์หรือแอปพลิเคชัน

คุณสามารถโหลดลูกบาศก์ที่ใช้งานสถานการณ์โดยใช้การเอ็กซ์ปอร์ตข้อมูลที่ได้มา ก่อนการใช้งานลูกบาศก์สำหรับสถานการณ์ ข้อมูลจะถูกโหลดไปยังสมาชิกแซนด์บ็อกซ์พื้นฐาน

หากคุณไม่ได้ใช้การเอ็กซ์ปอร์ตคอลัมน์ คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสมาชิกเอาต์ไลน์ซึ่งอาจยกเลิกการใช้งานการโหลดข้อมูลของคุณ หากคุณใช้การเอ็กซ์ปอร์ตคอลัมน์ แต่เอาต์ไลน์ของคุณเปลี่ยนแปลงไป คุณอาจต้องใช้ไฟล์ .rul เพื่อโหลดข้อมูล

ลูกบาศก์ที่ใช้งานสถานการณ์มีไดเมนชัน CellProperties ที่ใช้เป็นภายใน อย่างไรก็ตาม มีการรวมไดเมนชันนี้ไว้ในการเอ็กซ์ปอร์ตข้อมูล และต้องคำนึงถึงเมื่อโหลดข้อมูลที่เอ็กซ์ปอร์ต นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของไดเมนชันของแซนด์บ็อกซ์ เมื่อทำงานกับข้อมูลที่เอ็กซ์ปอร์ต

ต่อไปนี้คือ ข้อควรพิจารณาเมื่อเอ็กซ์ปอร์ตข้อมูลจากลูกบาศก์ที่ใช้งานสถานการณ์

• หากคุณใช้เพจ งาน ของเว็บอินเตอร์เฟซเพื่อเอ็กซ์ปอร์ตข้อมูลจากลูกบาศก์ที่ใช้งานสถานการณ์ ไฟล์ข้อมูลผลลัพธ์จะมีสมาชิกทั้งสามรายการจากไดเมนชัน CellProperties (EssValue, EssStatus และ EssTID) ห้ามตัดคอลัมน์ใดคอลัมน์หนึ่งออก
• ไฟล์ข้อมูลจากการเอ็กซ์ปอร์ตมีข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในลูกบาศก์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเลือกของคุณ ได้แก่ ข้อมูลระดับศูนย์ ข้อมูลทั้งหมด หรือข้อมูลอินพุต
• หากมีการเปลี่ยนแปลงค่าต่างๆ ในแซนด์บ็อกซ์ ค่าของแซนด์บ็อกซ์จะอยู่ในการเอ็กซ์ปอร์ตของคุณ
• หากต้องการโหลดข้อมูลที่เอ็กซ์ปอร์ตลงในแซนด์บ็อกซ์ ค่าต่างๆ ของสมาชิก CellProperties ทั้งสามรายการ (EssValue, EssStatus และ EssTID) ต้องอยู่ในไฟล์ข้อมูล

พาร์ติชันแบบโปร่งใสและที่จำลองข้อมูลจะเชื่อมต่อเสี้ยวข้อมูลต่างๆ จากลูกบาศก์ 2 รายการของ Essbase เข้าด้วยกัน กรณีนี้จะเกิดขึ้นเมื่อลูกบาศก์หนึ่งรายการ ทั้งสองรายการ หรือไม่มีลูกบาศก์ใดใช้งานสถานการณ์

ระบบจะใช้งานแซนด์บ็อกซ์เมื่อมีการสร้างสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการรับประกันว่าสถานการณ์ต่างๆ ในลูกบาศก์ที่แบ่งพาร์ติชันจะแมปเข้ากับเลขที่แซนด์บ็อกซ์เดียวกัน ผู้ใช้รายเดียวกันอาจไม่ได้เป็นผู้เข้าร่วมในแซนด์บ็อกซ์ต่างๆ ที่อยู่ในหลายลูกบาศก์ สถานการณ์เริ่มต้นกำหนดให้มีข้อจำกัดดังต่อไปนี้

• หากที่มาของพาร์ติชันแบบโปร่งใสมีการใช้งานสถานการณ์ การสืบค้นเป้าหมายจะดึงข้อมูลจากสมาชิกแซนด์บ็อกซ์พื้นฐานของที่มาเสมอ
• สามารถใช้การเขียนทีหลังระหว่างลูกบาศก์ที่มาและเป้าหมายที่ใช้งานสถานการณ์ได้ ระหว่างสมาชิกพื้นฐานในลูกบาศก์ พื้นฐานของลูกบาศก์เป้าหมายกับพื้นฐานของลูกบาศก์ที่มาเท่านั้น

  ตัวอย่างเช่น: การเขียนทีหลังไปยังที่มา ซึ่งโดยปกติมีการใช้งานจากลูกบาศก์เป้าหมายของพาร์ติชันแบบโปร่งใส และเลิกใช้สำหรับสมาชิกแซนด์บ็อกซ์ที่ไม่ใช่พื้นฐานของลูกบาศก์เป้าหมายที่ใช้งานสถานการณ์ การอนุญาตให้ผู้ใช้แซนด์บ็อกซ์แบบระยะไกลเขียนข้อมูลลงในพื้นฐานของลูกบาศก์ที่มาถือเป็นการละเมิดสิทธิ์

• สำหรับพาร์ติชันแบบโปร่งใส การจำลองข้อมูลจะสามารถทำได้ระหว่างพื้นฐานของลูกบาศก์ที่มาและพื้นฐานของลูกบาศก์เป้าหมายเท่านั้น

โปรดดู ทำความเข้าใจพาร์ติชันแบบโปร่งใสและที่จำลองข้อมูล

ในลูกบาศก์ที่ใช้งานสถานการณ์ คุณสามารถใช้ XREF และ XWRITE เพื่ออ้างอิงหรือเขียนเป็นข้อมูลในลูกบาศก์อื่นได้

XREF จะสืบค้นลูกบาศก์ระยะไกลจากลูกบาศก์ในระบบ (ลูกบาศก์ที่มีคำสั่ง XREF) หากลูกบาศก์ระยะไกลมีการใช้งานสถานการณ์ XREF จะดึงข้อมูลพื้นฐานจากลูกบาศก์ระยะไกลเท่านั้น

XWRITE จะอัปเดตลูกบาศก์ระยะไกลจากลูกบาศก์ในระบบ (ลูกบาศก์ที่มีคำสั่ง XWRITE) เนื่องจาก XWRITE จะเขียนข้อมูลลงในลูกบาศก์ระยะไกล ขอบเขตของคำสั่ง XWRITE จึงมีความสำคัญ

สำหรับค่าผสมอื่นๆ ของลูกบาศก์ที่ใช้งานสถานการณ์และไม่ได้ใช้งานสถานการณ์ XWRITE จะทำหน้าที่ต่างๆ ดังต่อไปนี้:

เมื่อลูกบาศก์ในระบบที่ไม่ได้ใช้งานสถานการณ์อ้างอิงลูกบาศก์ระยะไกลที่ใช้งานสถานการณ์ XWRITE จะอัปเดตสมาชิกพื้นฐานของลูกบาศก์ระยะไกลเสมอ

โปรดดู ความเข้าใจเกี่ยวกับ @XREF/@XWRITE

รอยทางการตรวจสอบข้อมูลจะติดตามการอัปเดตที่ทำกับข้อมูลในลูกบาศก์ ในการทำงานกับรอยทางการตรวจสอบในลูกบาศก์ที่ใช้งานสถานการณ์ คุณควรเข้าใจคำจำกัดความของค่าข้อมูล "เก่า" และ "ใหม่" และจุดเริ่มต้นที่ต่างกันสองจุดสำหรับการทำงานกับข้อมูลแซนด์บ็อกซ์ใน Smart View

การพิจารณาการอัปเดตข้อมูลล่าสุดที่คอมมิตกับเซลล์ว่าเป็นข้อมูล "ใหม่" และค่าข้อมูลก่อนหน้าทั้งหมดสำหรับเซลล์นั้นเป็นข้อมูล "เก่า" จะช่วยให้คุณเข้าใจว่ารอยทางการตรวจสอบทำงานอย่างไรในลูกบาศก์ที่ใช้งานสถานการณ์

แซนด์บ็อกซ์ใหม่หรือที่ยังไม่ใช้ในลูกบาศก์ที่ใช้งานสถานการณ์จะมีค่าที่ไม่จัดเก็บ ค่าที่แสดงต่อผู้ใช้ เช่น ค่าที่แสดงในสเปรดชีท จะแสดงค่าที่จัดเก็บในฐาน

หากคุณใช้รอยทางการตรวจสอบข้อมูลในลูกบาศก์ที่ใช้งานสถานการณ์ ค่าฐานที่แสดงในสเปรดชีทสำหรับแซนด์บ็อกซ์จะถือเป็นค่า "เก่า"

เมื่อคุณอัปเดตค่าในแซนด์บ็อกซ์ ค่าเหล่านั้นจะถูกจัดเก็บในแซนด์บ็อกซ์ (ไม่ใช่ในฐาน) เพื่อวัตถุประสงค์ของรอยทางการตรวจสอบข้อมูล ค่าเหล่านี้จะเป็นค่า "ใหม่"

หากคุณอัปเดตค่า "ใหม่" เหล่านี้ในภายหลัง รอยทางการตรวจสอบจะติดตามการเปลี่ยนแปลงล่าสุด ซึ่งจะถือว่าค่าก่อนหน้าเป็นค่า "เก่า" และค่าที่อัปเดตเป็นค่า "ใหม่"

เมื่อคุณเริ่มด้วยการเปิด Excel และสร้างการเชื่อมต่อส่วนตัวกับลูกบาศก์ของคุณ รอยทางการตรวจสอบจะทำงานอย่างที่คุณต้องการกับชุดข้อมูลอื่นใด

ข้อจำกัดเหล่านี้ใช้กับสถานการณ์และไดเมนชันแซนด์บ็อกซ์

• ไม่รองรับสถานการณ์ในลูกบาศก์ของพื้นที่เก็บข้อมูลการสรุปรวม

• ไม่รองรับคำสั่งการคำนวณ DATAEXPORT ในสมาชิกแซนด์บ็อกซ์ รองรับในสมาชิกพื้นฐานเท่านั้น

• เมื่อคุณเชื่อมต่อกับสถานการณ์จากชีทที่เปิดใช้สถานการณ์ การสืบค้น MDX, การแทรก MDX และการเอ็กซ์ปอร์ต MDX จะทำงานกับพื้นฐานแทนที่จะทำงานกับแซนด์บ็อกซ์สำหรับสถานการณ์ดังกล่าว

• ไม่รองรับตัวแปรแทนของรันไทม์ที่มีพารามิเตอร์ svLaunch เมื่อคุณเริ่มต้นสถานการณ์ใน Smart View จากเว็บอินเตอร์เฟซ Essbase โปรดดู ดูและทำงานกับข้อมูลสถานการณ์จากเว็บอินเตอร์เฟซ Essbase

  ตัวแปรแทนของรันไทม์ที่มีพารามิเตอร์ svLaunch ทำงานอย่างถูกต้องเมื่อคุณเชื่อมต่อกับสถานการณ์โดยตรงจากการเชื่อมต่อส่วนบุคคล ทั้งนี้เนื่องจากสมาชิกแซนด์บ็อกซ์อยู่ในชีท

มีจำนวนฟังก์ชันที่จำกัดที่ระบบไม่รองรับใน โหมดไฮบริด ซึ่งใช้กับลูกบาศก์ที่ใช้งานสถานการณ์ โปรดดู ฟังก์ชันที่รองรับในโหมดไฮบริด