โปรไฟล์ไคลเอนต์ประกอบด้วยการตั้งค่าที่ผู้ใช้เลือกขณะสแกน อิมปอร์ต และ/หรือสร้างดัชนีเอกสารในไคลเอนต์ Content Capture โปรไฟล์ไคลเอนต์จะควบคุมเรื่องต่างๆ เช่น วิธีสร้างและคั่นเอกสารในแบทช์ กำหนดว่ามีฟิลด์เมตะดาต้าหรือไม่ รวมทั้งจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปหลังจากที่ผู้ใช้รีลีสแบทช์ คุณสร้างโปรไฟล์ไคลเอนต์โดยใช้อีลิเมนต์โปรซีเจอร์
โปรดดูหัวข้อเหล่านี้เพื่อให้เข้าใจว่าโปรไฟล์ไคลเอนต์คืออะไรและต้องคอนฟิเกอร์อย่างไร
ผู้ใช้บางรายจะทำหน้าที่บันทึกเอกสารเท่านั้น บางรายสร้างดัชนีสำหรับแบทช์เอกสาร และบางรายมีหน้าที่ทั้งสองอย่าง คุณสามารถคอนฟิเกอร์โปรไฟล์ไคลเอนต์ได้ตามข้อกำหนดเหล่านี้ ในโปรไฟล์ไคลเอนต์ คุณสามารถระบุคำนำหน้าแบทช์ ลำดับความสำคัญของแบทช์ เกณฑ์สำหรับการฟิลเตอร์แบทช์ (ลำดับความสำคัญ, สถานะ, คำนำหน้า เป็นต้น) ในการจำกัดการใช้ของโปรไฟล์ไคลเอนต์ คุณสามารถระบุผู้ใช้เพื่อให้เฉพาะผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สามารถเข้าใช้โปรไฟล์ไคลเอนต์ในสภาพแวดล้อมของไคลเอนต์ได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเชื่อมโยงโปรไฟล์เอกสารอย่างน้อยหนึ่งรายการกับโปรไฟล์ไคลเอนต์แต่ละรายการได้
ในการคอนฟิเกอร์โปรไฟล์ไคลเอนต์ คุณต้องระบุการตั้งค่าบนเพจของโปรไฟล์
ตาราง 11-1 คอนฟิเกอเรชันโปรไฟล์ไคลเอนต์
เพจ | คอนฟิเกอเรชันหลัก |
---|---|
การตั้งค่าทั่วไป |
เลือกการตั้งค่าโปรไฟล์หลักต่างๆ เช่น
|
การตั้งค่าฟิลเตอร์แบทช์ |
เลือกฟิลเตอร์การแสดงผลแบทช์ ระบุว่าผู้ใช้สามารถมองเห็นแบทช์ต่างๆ ได้ในลิสต์ของช่องแบทช์หรือไม่ เมื่อมีการเลือกโปรไฟล์ไคลเอนต์นี้ รวมถึงลักษณะการแสดงรายการแบทช์ (โปรดดู ฟิลเตอร์ลิสต์แบทช์ที่แสดงต่อผู้ใช้) |
การตั้งค่ารูปภาพ |
ระบุการตั้งค่าสีและคุณภาพของรูปภาพ ตรวจหาเพจว่าง และจัดการไฟล์ที่ไม่ใช่ภาพที่อิมปอร์ตมา แท็บนี้สามารถใช้ได้เมื่อมีการตั้งค่าฟิลด์ ประเภทโปรไฟล์ เป็น 1 - บันทึกอย่างเดียว หรือ 2 - บันทึกและสร้างดัชนี บนเพจ การตั้งค่าทั่วไป ตัวอย่างเช่น ระบุ:
|
การตั้งค่าการสร้างดัชนีเอกสาร |
คอนฟิเกอร์การแบ่งเอกสาร ลิสต์ตัวเลือกที่อ้างอิง และตัวเลือกโปรไฟล์เอกสารได้ตามต้องการ แท็บนี้สามารถใช้ได้เมื่อมีการตั้งค่าฟิลด์ ประเภทโปรไฟล์ เป็น 2 - บันทึกและสร้างดัชนี หรือ 3 - สร้างดัชนีเท่านั้น บนเพจ การตั้งค่าทั่วไป ตัวอย่างเช่น ระบุ:
|
การรักษาความปลอดภัย |
ให้หรือย้ายออกสิทธิ์การเข้าใช้โปรไฟล์ไคลเอนต์สำหรับผู้ใช้ไคลเอนต์ตามบทบาทที่ระบุไว้ก่อนหน้า (โปรดดู คอนฟิเกอร์การรักษาความปลอดภัยของโปรซีเจอร์) |
หลังการประมวลผล |
กำหนดกระบวนการของรีลีสที่ผู้ใช้สามารถใช้ได้เมื่อรีลีสแบทช์ (โปรดดู คอนฟิเกอร์การประมวลผลภายหลังของโปรไฟล์ไคลเอนต์) |
ข้อมูลสรุป |
ตรวจดูการตั้งค่าที่เลือกสำหรับโปรไฟล์ไคลเอนต์ |
คุณสามารถเพิ่มโปรไฟล์ไคลเอนต์ใหม่หรือแก้ไขโปรไฟล์ที่มีอยู่ในแท็บ การบันทึก
ขอแนะนำว่าอย่าทำการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ กับโปรไฟล์ไคลเอนต์หลังจากที่ผู้ใช้เริ่มบันทึกแบทช์โดยใช้โปรไฟล์ไปแล้ว แต่ให้คุณเปลี่ยนโปรไฟล์ไคลเอนต์เป็นโปรไฟล์แบบดัชนีอย่างเดียว ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สร้างดัชนีและรีลีสแบทช์ที่มีอยู่ได้โดยไม่มีการบันทึกแบทช์เพิ่มเติม
หากต้องการเปลี่ยนแปลงโปรไฟล์ไคลเอนต์เพิ่มเติม ให้สร้างสำเนาโปรไฟล์การใช้งานจริงที่คุณสามารถทำการเปลี่ยนแปลงได้อย่างปลอดภัยจนกว่าโปรไฟล์ใหม่จะพร้อมสำหรับการใช้งานจริง
บันทึกโปรไฟล์ไคลเอนต์เป็นระยะเมื่อทำการเปลี่ยนแปลง รันไคลเอนต์เพื่อดูและทดสอบการเปลี่ยนแปลงโปรไฟล์ หลังจากแก้ไขโปรไฟล์ไคลเอนต์ ฟิลด์เมตะดาต้า หรือโปรไฟล์เอกสารแล้ว ให้ออกจากระบบและเข้าสู่ระบบไคลเอนต์อีกครั้งเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของโปรซีเจอร์ที่ปรากฏในไคลเอนต์
หากต้องการเพิ่มหรือแก้ไขโปรไฟล์ไคลเอนต์ ให้ทำดังนี้
คุณสามารถกำหนดให้ผู้ใช้ไคลเอนต์สามารถเข้าใช้หรือไม่สามารถเข้าใช้โปรไฟล์ไคลเอนต์ได้ โดยการเปิดใช้งานหรือเลิกใช้งานโปรไฟล์ ตามค่าดีฟอลต์ โปรไฟล์ไคลเอนต์มีสถานะใช้งาน (ออนไลน์) คุณสามารถเปลี่ยนโปรไฟล์ไคลเอนต์เป็นออฟไลน์เพื่อวัตถุประสงค์ในการแก้ไขปัญหา หรือเพื่อเลิกใช้โปรไฟล์ก่อนที่จะลบออก ก่อนที่คุณจะลบโปรไฟล์ ให้เลิกใช้งานโปรไฟล์เป็นระยะเวลาหนึ่ง
การลบโปรไฟล์ไคลเอนต์ไม่ส่งผลกระทบกับแบทช์ที่บันทึกก่อนหน้านี้โดยใช้โปรไฟล์ เนื่องจากผู้ใช้จะเห็นแบทช์ทั้งหมดล็อคอยู่โดยไม่สนใจการตั้งค่าฟิลเตอร์แบทช์ ผู้ใช้อาจสามารถเลือกโปรไฟล์ไคลเอนต์อื่น และดำเนินการดู แก้ไขและรีลีสแบทช์ต่างๆ ที่พวกเขาสร้างขึ้นโดยใช้โปรไฟล์ไคลเอนต์ที่ลบออก
ประเภทโปรไฟล์ไคลเอนต์ที่คุณเลือกเป็นตัวกำหนดว่าผู้ใช้จะใช้โปรไฟล์อย่างไร และกำหนดว่าผู้ใช้จะบันทึกเอกสารและป้อนค่าเมตะดาต้าหรือไม่ นอกจากนี้ประเภทโปรไฟล์ยังมีผลกับวิธีการสร้างเอกสารภายในแบทช์ด้วย
เลือกประเภทโปรไฟล์ 1 - บันทึกอย่างเดียว เมื่อคุณต้องการให้ผู้ใช้สแกนหรืออิมปอร์ตเอกสาร แต่ไม่สร้างดัชนีสำหรับเอกสาร ประเภทนี้มักใช้สำหรับแบทช์ที่สร้างดัชนีในภายหลังโดยตัวประมวลผลการรับรู้ในขั้นตอนการประมวลผลภายหลัง เมื่อผู้ใช้เลือกโปรไฟล์ "บันทึกอย่างเดียว" ช่องเมตะดาต้าจะไม่ปรากฏในวินโดว์ไคลเอนต์
เมื่อผู้ใช้ สแกนแบทช์ ไคลเอนต์จะสแกนกระดาษทุกหน้าที่โหลดเข้าสู่สแกนเนอร์ และสร้างเอกสารเดียว ผู้ใช้ไคลเอนต์สามารถแบ่งเอกสารหนึ่งเป็นเอกสารหลายรายการได้โดยใช้ตัวเลือก สร้างเอกสารใหม่ หรือตัวประมวลผลแบทช์ เช่น ตัวประมวลผลการรับรู้สามารถดำเนินการแบ่งเอกสารได้
เมื่อผู้ใช้ อิมปอร์ตแบทช์ ตัวเลือกการอิมปอร์ตที่ผู้ใช้เลือกจะเป็นตัวกำหนดว่าจะสร้างเอกสารเดียวหรือหลายเอกสาร
แม้ว่าผู้ใช้ไคลเอนต์ไม่สามารถสร้างดัชนีเอกสาร แต่ผู้ใช้สามารถแบ่งเอกสารโดยใช้ตัวเลือก สร้างเอกสารใหม่
เมื่อใช้โปรไฟล์ "บันทึกอย่างเดียว" ตัวเลือกการสร้างดัชนีและการสร้างเอกสารจะไม่สามารถใช้ได้ การตั้งค่าในเพจ การตั้งค่าการสร้างดัชนีเอกสาร จะไม่สามารถใช้ได้
เลือกประเภทโปรไฟล์ 2 - บันทึกและสร้างดัชนี เมื่อคุณต้องการให้ผู้ใช้บันทึกเอกสารและสร้างดัชนี เมื่อผู้ใช้เลือกโปรไฟล์บันทึกและสร้างดัชนี ช่องเมตะดาต้าจะปรากฏในวินโดว์ไคลเอนต์เมื่อเปิดแบทช์
เมื่อผู้ใช้ สแกนแบทช์ โดยใช้โปรไฟล์ "บันทึกและสร้างดัชนี" ตัวเลือกการสร้างเอกสาร ที่เลือกในเพจ การตั้งค่าการสร้างดัชนีเอกสาร จะเป็นตัวกำหนดวิธีสร้างเอกสาร ตามคำอธิบายใน คอนฟิเกอร์การสร้างเอกสาร ตัวอย่างเช่น ตัวเลือกการสร้างเอกสาร หนึ่งเพจ (หน้าเดียว) จะสร้างเอกสารใหม่หลังจากที่บันทึกแต่ละเพจ ผู้ใช้สามารถใช้ตัวเลือก สร้างเอกสารใหม่ เพื่อคั่นเอกสาร หรือใช้ชีทคั่นเพจที่ว่างเปล่าเพื่อคั่นและกำหนดเอกสารในแบทช์โดยอัตโนมัติ
เมื่อผู้ใช้ อิมปอร์ตแบทช์ โดยใช้โปรไฟล์ "บันทึกและสร้างดัชนี" ตัวเลือกการอิมปอร์ตที่เลือกจะเป็นตัวกำหนดว่าจะสร้างเอกสารหนึ่งฉบับหรือหลายฉบับ ผู้ใช้สามารถใช้ตัวเลือก สร้างเอกสารใหม่ เพื่อคั่นเอกสารในแบทช์
เลือกประเภทโปรไฟล์ 3 - สร้างดัชนีเท่านั้น เมื่อคุณต้องการให้ผู้ใช้สร้างดัชนีเอกสารจากแบทช์ที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้ ตัวอย่างเช่น แบทช์ที่สร้างโดยใช้สแกนเนอร์งานผลิตแบบความเร็วสูงจะสามารถประมวลผลโดยผู้ใช้ที่สร้างดัชนีหลายรายโดยใช้ไคลเอนต์ เมื่อผู้ใช้เลือกโปรไฟล์ "สร้างดัชนีเท่านั้น" ช่องเมตะดาต้าจะแสดงผลในวินโดว์ไคลเอนต์ แต่ตัวเลือกการบันทึกในช่องแบทช์จะไม่ปรากฏ ทำให้ไม่สามารถสแกนหรืออิมปอร์ตเพื่อเพิ่มเพจในแบทช์
คุณอาจสร้างโปรไฟล์ "สร้างดัชนีเท่านั้น" เมื่อ:
มีผู้ใช้หลายกลุ่มสแกนกับแบทช์ของดัชนี
ผู้ใช้ที่สร้างดัชนีดำเนินการสร้างหรือตรวจสอบดัชนี
แบทช์ต้องมีการแก้ไข แต่ผู้ใช้ที่สร้างดัชนีไม่มีสิทธิ์เข้าใช้สแกนเนอร์
คุณมีตัวเลือกต่างๆ สำหรับกำหนดแบทช์ที่ผู้ใช้สามารถดูและเข้าใช้ในลิสต์สำหรับช่องแบทช์ของไคลเอนต์ ตัวอย่างเช่น คุณอาจคอนฟิเกอร์โปรไฟล์ไคลเอนต์ให้ผู้ใช้สามารถดูแบทช์ใดก็ได้ในโปรซีเจอร์ หรือจำกัดลิสต์ของแบทช์ไว้เฉพาะแบทช์ที่ผู้ใช้บันทึกในเวิร์กสเตชันของตนเองซึ่งมีคำนำหน้าที่กำหนดและมีข้อผิดพลาด
หลักเกณฑ์ต่อไปนี้จะอธิบายว่าแบทช์ใดจะปรากฏในช่องแบทช์ให้ผู้ใช้เห็น
แบทช์ที่ล็อคไว้สำหรับผู้ใช้จะปรากฏ เสมอ แต่บางแบทช์อาจไม่ปรากฏ ถ้าผู้ใช้ได้กำหนดขีดจำกัดของจำนวนสูงสุดที่จะแสดงผลในการตั้งค่าของไคลเอนต์
ผู้ใช้จะเห็นแบทช์ที่ถูกปลดล็อคหรือล็อคไว้สำหรับผู้ใช้อื่นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าฟิลเตอร์แบทช์ในโปรไฟล์ไคลเอนต์ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถจำกัดลิสต์ของแบทช์ไว้ที่แบทช์ที่มีคำนำหน้าบางคำ มีสภาวะบางอย่าง (เช่น ข้อผิดพลาด หรือกำลังประมวลผล) หรือที่มีสถานะหรือลำดับความสำคัญที่เลือกไว้
ผู้ใช้สามารถฟิลเตอร์ลิสต์ของแบทช์เพิ่มเติมในไคลเอนต์โดยใช้ตัวเลือกการค้นหา ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้อาจฟิลเตอร์ลิสต์ของแบทช์เพื่อแสดงชุดแบทช์ที่จำกัด เช่น แบทช์ที่มีลำดับความสำคัญสูงหรือแบทช์ที่เก่าเท่านั้น หรือค้นหาแบทช์ที่มีเอกสารอย่างน้อยหนึ่งเอกสารที่พบข้อผิดพลาด
ในการแสดงแบทช์ให้กับผู้ใช้ในวินโดว์ไคลเอนต์ ให้ทำดังนี้
ตาราง 11-2 การฟิลเตอร์แบทช์
ฟิลเตอร์ | ตัวอย่างการใช้งาน |
---|---|
คำนำหน้าแบทช์เพิ่มเติม |
ผู้ใช้จะเห็นแบทช์ที่สร้างโดยมีคำนำหน้าแบทช์ของโปรไฟล์ที่เลือกไว้เสมอ โดยขึ้นกับฟิลเตอร์อื่นๆ ด้วย
|
สภาวะการประมวลผล |
จำกัดการแสดงผลแบทช์ไว้เฉพาะสภาวะการประมวลผลที่เลือกไว้ สภาวะการประมวลผลเป็นสภาวะของระบบภายในที่ไม่สามารถกำหนดใหม่ได้
|
สถานะของแบทช์ |
จำกัดการแสดงผลแบทช์ไว้เฉพาะสถานะของแบทช์ที่สร้างในแท็บ การจัดประเภท ตัวอย่างเช่น เลือกสถานะของแบทช์ สแกนใหม่ หรือ ต้องตรวจดู เพื่อแสดงแบทช์ที่ต้องมีการดำเนินการโดยผู้ใช้ที่มีคุณสมบัติ |
ลำดับความสำคัญ |
จำกัดการแสดงผลแบทช์ไว้เฉพาะลำดับความสำคัญที่ระบุ ตัวอย่างเช่น เลือกลำดับความสำคัญ 10 เพื่อแสดงแบทช์ที่ผู้ใช้ต้องดำเนินการทันที |
การแสดงผลแบทช์ |
จำกัดการแสดงผลตามผู้ใช้และที่ตั้ง
|
จำนวนวันที่ผ่านมา |
ป้อนตัวเลขในฟิลด์ จาก และ ถึง เพื่อแสดงแบทช์ที่มีอายุอยู่ระหว่างจำนวนวันที่ระบุ ตัวอย่างเช่น คุณอาจแสดงแบทช์ที่มีระยะเวลาตั้งแต่ 7 ถึง 45 วัน |
การจัดเรียงหลัก, การจัดเรียงรอง |
ระบุวิธีการจัดเรียงแบทช์ และเลือกลำดับการจัดเรียงจากน้อยไปมากหรือมากไปน้อย คุณสามารถระบุการจัดเรียงหลักและการจัดเรียงรองตาม:
ตัวอย่างเช่น จัดเรียงแบทช์เพื่อให้แบทช์ที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดปรากฏที่ด้านบนสุด และแบทช์ที่มีลำดับความสำคัญเท่ากันจะแสดงแบทช์ที่มีวันที่เก่าสุดก่อน หมายเหตุ: การตั้งค่านี้จะระบุลำดับการจัดเรียงดีฟอลต์ให้กับโปรไฟล์ไคลเอนต์ และผู้ใช้สามารถเปลี่ยนลำดับการจัดเรียงได้หลังจากที่แสดงผลแบทช์แล้ว |
เมื่อผู้ใช้บันทึกเอกสารใน Content Capture Client การตั้งค่ารูปภาพจะมาจากสองที่มา:
การตั้งค่าโปรไฟล์ไคลเอนต์ ซึ่งมีคำอธิบายในหัวข้อนี้ การตั้งค่าเหล่านี้จะมีผลกับแบทช์ทั้งหมดที่บันทึกโดยใช้โปรไฟล์ไคลเอนต์นี้ ในบางกรณี ผู้ใช้สามารถแก้ไขการตั้งค่าเหล่านี้ได้
การตั้งค่าสแกนเนอร์ ซึ่งเป็นการตั้งค่าเฉพาะสำหรับสแกนเนอร์ที่เลือกไว้ และสแกนเนอร์ที่เลือกโดยผู้ใช้ ผู้ใช้จะเลือกการตั้งค่านี้หลังจากคลิก การตั้งค่าการบันทึก ในช่องแบทช์ เมื่อเลือกแล้ว ระบบจะบันทึกการตั้งค่านี้ไว้กับโปรไฟล์ไคลเอนต์
ในการคอนฟิเกอร์การตั้งค่าการบันทึกไฟล์ที่เป็นรูปภาพและที่ไม่ใช่รูปภาพในโปรไฟล์ไคลเอนต์ ให้ทำดังนี้:
เพิ่มหรือแก้ไขโปรไฟล์ไคลเอนต์ และเลือกเพจ การตั้งค่ารูปภาพ
คอนฟิเกอร์การตั้งค่ารูปภาพ
ในฟิลด์ สีดีฟอลต์ ให้ระบุสีดีฟอลต์ (ขาวดำ, เกรย์สเกล หรือ สี) โดยกำหนดคุณภาพของรูปภาพให้สมดุลกับขนาดของรูปภาพ
ถ้าคุณปล่อยให้ฟิลด์นี้มีค่าเป็น <ไม่ได้ระบุ> ระบบจะใช้สีที่เลือกไว้ของสแกนเนอร์ (สีที่ผู้ใช้ไคลเอนต์เลือกไว้หรือเป็นการตั้งค่าดีฟอลต์ของสแกนเนอร์)
เลือกฟิลด์ ป้องกันการแก้ไขค่าดีฟอลต์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ไคลเอนต์สามารถแก้ไขการตั้งค่าสีของสแกนเนอร์ การตั้งค่านี้อาจไม่มีผลกับสแกนเนอร์บางเครื่อง
ในฟิลด์ DPI ดีฟอลต์ ให้ระบุ DPI ดีฟอลต์ (100, 150, 200, 240, 300, 400 หรือ 600) โดยกำหนดคุณภาพของรูปภาพให้สมดุลกับขนาดของรูปภาพ
ถ้าคุณปล่อยให้ฟิลด์นี้มีค่าเป็น <ไม่ได้ระบุ> ระบบจะใช้ DPI ที่เลือกไว้ของสแกนเนอร์ (DPI ที่ผู้ใช้ไคลเอนต์เลือกไว้หรือเป็นการตั้งค่าดีฟอลต์ของสแกนเนอร์)
เลือกฟิลด์ ป้องกันการแก้ไขค่าดีฟอลต์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขความละเอียดของรูปภาพในการตั้งค่าสแกนเนอร์ในไคลเอนต์ การตั้งค่านี้อาจไม่มีผลกับสแกนเนอร์บางเครื่อง
ในฟิลด์ เกณฑ์ขั้นต่ำของจำนวนไบต์ในเพจว่างเปล่า คุณสามารถ คอนฟิเกอร์การตรวจหาเพจว่างเปล่า
ในการระบุความสว่างและความเปรียบต่างของรูปภาพดีฟอลต์ ให้เลือกฟิลด์ ใช้ความสว่างและความเปรียบต่างดีฟอลต์ และเลื่อนตัวเลื่อนเพื่อปรับค่าขึ้นลง ผู้ใช้ไคลเอนต์อาจแก้ไขการตั้งค่าเหล่านี้ได้ ถ้ามีการอนุญาตไว้ในวินโดว์การตั้งค่าสำหรับสแกนเนอร์นั้นๆ
หมายเหตุ:
รูปภาพผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามสแกนเนอร์แต่ละรุ่น ดังนั้น การใช้ความสว่างและความเปรียบต่างดีฟอลต์จึงให้ผลดีที่สุด เมื่อใช้สแกนเนอร์รุ่นเดียวกับโปรไฟล์ไคลเอนต์
คลิก ส่ง เพื่อบันทึกโปรไฟล์ไคลเอนต์
เอกสารที่เป็นรูปภาพซึ่งผู้ใช้บันทึกอาจมีเพจว่างเปล่า คุณสามารถคอนฟิเกอร์ Content Capture ให้ลบเพจว่างเปล่าออกจากแบทช์โดยอัตโนมัติ ในการดำเนินการนี้ คุณต้องระบุวิธีที่จะใช้ในการตรวจหาเพจว่างเปล่า กล่าวคือ คุณต้องระบุขนาดไฟล์ที่เป็นเกณฑ์ขั้นต่ำ ซึ่งรูปภาพใดก็ตามที่มีขนาดต่ำกว่าหรือเท่ากับเกณฑ์ขั้นต่ำนี้จะถือว่าเป็นเพจว่างเปล่า และถูกลบออก
คุณสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับความแตกต่างในการคอนฟิเกอร์ชีทคั่นและการตรวจหาเพจว่างเปล่าได้ที่ คอนฟิเกอร์การใช้ชีทคั่น
เอกสารกระดาษที่สแกนหรือไฟล์รูปภาพที่อิมปอร์ตจะได้รับการแปลงเป็นเอกสารรูปภาพใน Content Capture อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ใช้อิมปอร์ต ไฟล์ที่ไม่ใช่รูปภาพ เช่น เอกสาร Microsoft Word หรือ PDF การตั้งค่าไฟล์ที่ไม่ใช่รูปภาพในโปรไฟล์ไคลเอนต์จะกำหนดวิธีจัดการไฟล์เหล่านั้น
หากต้องการคอนฟิเกอร์การจัดการไฟล์ที่ไม่ใช่รูปภาพในโปรไฟล์ไคลเอนต์ ให้ทำดังนี้
เมื่อคอนฟิเกอร์โปรไฟล์ไคลเอนต์ โปรดตรวจสอบว่าได้ระบุวิธีสร้างเอกสารภายในแบทช์แล้ว ตัวอย่างเช่น ต้องการให้บันทึกเอกสารตามจำนวนเพจที่กำหนด เช่น เอกสารด้านเดียว หรือเอกสารสองด้านหรือไม่ ใช้ชีทคั่นเพื่อระบุว่าสิ้นสุดเอกสารหนึ่งและเริ่มเอกสารถัดไปหรือไม่ หรือจะแสดงพรอมท์ต่อผู้ใช้เพื่อระบุวิธีสร้างเอกสารตามเนื้อหาแบทช์หรือไม่
หากต้องการตั้งค่าตัวเลือกการสร้างเอกสารในโปรไฟล์ไคลเอนต์ ให้ทำดังนี้
คุณสามารถคอนฟิเกอร์โปรไฟล์ไคลเอนต์เพื่อใช้ชีทคั่นสำหรับกำหนดว่าควรจะคั่นเอกสารเมื่อใด สำหรับรูปภาพที่มีขนาดไฟล์ต่ำกว่าหรือเท่ากับค่าเกณฑ์ขั้นต่ำของจำนวนไบต์ที่คุณระบุ ระบบจะสร้างเอกสารใหม่และลบชีทคั่นออก
ในการคอนฟิเกอร์โปรไฟล์ไคลเอนต์ให้ตรวจหาชีทคั่น ให้ทำดังนี้
ลิสต์ตัวเลือกอ้างอิงจะมีลิสต์ตัวเลือกระดับล่างอย่างน้อยสองรายการที่เชื่อมโยงกับฟิลด์ระดับบน โดยรายการหนึ่งจะปรากฏหลังจากที่ผู้ใช้เลือกข้อมูลในฟิลด์ระดับบน คุณสามารถใช้ลิสต์ตัวเลือกแบบหลายรายการ แต่ใช้การกำหนดลิสต์ตัวเลือกอ้างอิงให้กับโปรไฟล์ไคลเอนต์ได้เพียงหนึ่งรายการ ผ่านการกำหนดฟิลด์เมตะดาต้า
โปรไฟล์เอกสารจะระบุชุดของฟิลด์เมตะดาต้าที่คุณสามารถใช้เพื่อสร้างดัชนีสำหรับประเภทเอกสารที่ระบุ และชุดของประเภทสิ่งที่แนบมาที่ใช้ได้สำหรับเอกสาร เมื่อคุณคอนฟิเกอร์โปรไฟล์ไคลเอนต์ ให้เลือกโปรไฟล์เอกสารสำหรับประเภทเอกสารทั้งหมดที่จะสร้างดัชนี หรือทั้งบันทึกและสร้างดัชนีกับโปรไฟล์นั้น
โปรดดู เพิ่มหรือแก้ไขโปรไฟล์เอกสาร
การบันทึกเนื้อหามีการรักษาความปลอดภัยไคลเอนต์เป็นเลเยอร์ต่างๆ ดังนี้
ผู้ดูแลระบบต้องระบุบทบาทผู้ใช้ที่เหมาะสม (CECCaptureClient
) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าสู่ระบบไคลเอนต์การบันทึกเนื้อหาได้
ในการดูและเข้าใช้โปรไฟล์ไคลเอนต์เฉพาะ ผู้จัดการโปรซีเจอร์จะระบุสิทธิ์เข้าใช้การรักษาความปลอดภัยโปรไฟล์ให้แก่ผู้ใช้
ในการให้สิทธิ์การเข้าใช้การรักษาความปลอดภัยโปรไฟล์ไคลเอนต์แก่ผู้ใช้การบันทึกเนื้อหา ให้ทำดังนี้
ผู้ใช้ไคลเอนต์อาจปลดล็อคแบทช์หรือรีลีสแบทช์ผ่านกระบวนการรีลีสหลังจากที่ทำงานกับแบทช์เสร็จแล้ว ขั้นตอนถัดไปของแบทช์จะขึ้นอยู่กับคอนฟิเกอเรชันการประมวลผลภายหลังที่คุณระบุโดยใช้กระบวนการรีลีส ไม่ว่าจะแบบไหน แบทช์จะเข้าสู่การประมวลผลการคอมมิตตามโปรไฟล์การคอมมิตที่ใช้อยู่ซึ่งกำหนดไว้สำหรับโปรซีเจอร์ หรือไม่อย่างนั้นก็จะอยู่ในคิวสำหรับการประมวลผลเพิ่มเติม เช่น โฟลว์ของแบทช์ไปยังงานการแปลงเป็น TIFF, โฟลว์ของแบทช์ไปยังงานการแปลงเป็น PDF, โฟลว์ของแบทช์ไปยังงานตัวประมวลผลการรับรู้, โฟลว์ของแบทช์ไปยังงานการค้นหาข้อมูล หรือ โฟลว์ของแบทช์ไปยังงานการแปลง XML
หากต้องการคอนฟิเกอร์การประมวลผลภายหลังสำหรับโปรไฟล์ไคลเอนต์ ให้ทำดังนี้